นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565-มีนาคม 2566) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1,163,599 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 95,084 ล้านบาท หรือ 8.9% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.9% ซึ่งหน่วยงานที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ 1.กรมสรรพากร โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีเงิน ได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ขยายตัวได้ดีตามเศรษฐกิจ 2. ส่วนราชการอื่น เนื่องจากมีรายได้พิเศษจากการนำส่งทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียน รายได้จากสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ และรายได้จากการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่วิทยุระบบ FM
3. รัฐวิสาหกิจ เนื่องจากมีการนำส่งรายได้เหลื่อมจากปีงบประมาณก่อนหน้า และ 4.กรมศุลกากร เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าขยายตัวได้ดีประกอบกับมีการชำระอากรขาเข้าย้อนหลังตามคำพิพากษาคดี
สำหรับการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตต่ำกว่าประมาณการจากการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนเป็นการชั่วคราวจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้หากไม่รวมรายได้พิเศษของส่วนราชการอื่นและกรมศุลกากร ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิสูงกว่าประมาณการ 61,673 ล้านบาท หรือ 5.8% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.8%
รายงานจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า กรมสรรพากรจัดเก็บรายได้ 6 เดือนแรกอยู่ที่ 915,222 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 62,521 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.3% และสูงกว่าประมาณการ 95,211 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 11.6%
ขณะที่กรมสรรพสามิต เก็บรายได้จำนวน 237,640 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 38,812 ล้านบาท หรือลดลง 14% และต่ำกว่าประมาณการ 43,685 ล้านบาท หรือต่ำเป้า 15.5% ส่วนกรมศุลกากรเก็บได้ 67,322 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 14,282 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26.9% และสูงกว่าประมาณการ 14,622 ล้านบาท หรือสูงกว่าเป้า 27.7%