นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ ผู้สมัครส.ส ขอนแก่นเขต 11 หมายเลข1 พรรครวมไทยสร้างชาติ  ได้กล่าวถึงบรรยากาศในการลงพื้นที่หาเสียงของตนเอง ว่า ตอนนี้ชาวบ้านให้ความสนใจในนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ และมีการนำมาเปรียบเทียบกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คู่เปรียบเทียบที่ชาวบ้านสนใจมากที่สุดคือ นโยบายบัตรสวัสดิการพลัส ของพรรครวมไทยสร้างชาติหรือบัตรลงตู่ ที่จะเพิ่มเงินเป็น 1,000 บาททุกเดือน กับนโยบาย แจกเงินดิจิตอล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย
               

โดยยอมรับว่า ในช่วงแรกที่ พรรคเพื่อไทย มีการเปิดตัว นโยบายแจกเงินดิจิตอล 10,000 บาทให้กับคนอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคน สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก ด้วยตัวเลขที่สูงถึง 10,000 บาท ทำให้นโยบายดังกล่าวได้รับการ กล่าวขานอย่างกว้างขวาง 
                 
แต่เมื่อมีข่าวการท้วงติงจากฝ่ายต่างๆ ถึงความเป็นไปได้ และผลกระทบ ของโครงการนี้ ไม่ว่าจะเป็นจากนักวิชาการ หรือสื่อมวลชนแม้แต่อดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ในประเด็นเรื่องที่มาของเงินงบประมาณที่จะใช้สูงถึง 560,000 ล้านบาทว่าจะเอามาจากไหน และที่สำคัญ คือเรื่องของรูปแบบของเงินที่จะจ่ายให้กับประชาชน และวิธีการใช้ ที่มีความซับซ้อนยุ่งเหยิง และการอธิบาย ของแกนนำเพื่อไทยแต่ละครั้งที่ออกมาพูด ก็แตกต่างกันไปจนชาวบ้านรู้สึก สับสน แม่ค้าเองก็สับสน ไม่รู้จะเอาเงินดิจิตตอลไปขึ้นเงินหรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้หรือเปล่า ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่ เป็นร้านของชาวบ้านธรรมดาไม่ได้มีระบบบัญชีอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวขายอยู่ขายกินไปวันๆหนึ่ง และถ้าเงื่อนไขยุ่งยากแบบนี้ คงไม่เอาด้วยแน่ สุดท้ายก็ต้องไปซื้อที่ห้างขนาดใหญ่ หรือร้านสะดวกซื้อของนายทุนเท่านั้น       
               

ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับนโยบายบัตรสวัสดิการพลัส หรือ "บัตรลุงตู่" ที่ให้เงินเดือนละ1 ,000 บาททุกเดือน เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก ไม่จำกัดระยะทาง ทั้งชาวบ้านและร้านค้าในชุมชนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า  เป็นนโยบายที่ชัดเจน จับต้องได้มากกว่าเพราะเงินที่ได้รับเป็นเงินจริงๆ ซื้อมาขายไป ง่ายๆไม่ซับซ้อน จึงทำให้ตอนนี้กลายเป็นกระแสที่คนในพื้นที่พูดถึงเป็นแนวเดียวกัน และพร้อมสนับสนุนลุงตู่ เป็นนายกฯต่อไป
++++++++++++++++++++++++