นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือและเปิดศูนย์ความร่วมมือการเปลี่ยนลิ้นหัวใจพัลโมนารีทางสายสวนในเด็กและวัยรุ่น ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี พร้อมกล่าวว่า โรคหัวใจแต่กำเนิดในเด็ก มีความยุ่งยากซับซ้อน อัตราการเสียชีวิตสูง กว่าครึ่งต้องได้รับการผ่าตัดหัวใจเพื่อแก้ไขความผิดปกติ แต่ละปีมีผู้ป่วยที่ต้องได้รับการผ่าตัดกว่า 4,000 คน ในจำนวนนี้ต้องกลับมารับการผ่าตัดซ้ำกว่า 400 คน คิดเป็น 10% ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่อหัวใจและร่างกายเด็กมากขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจพัลโมนารีทดแทนลิ้นหัวใจเดิมที่เสื่อมสภาพ เป็นหนึ่งในปัญหาที่ผู้ป่วยต้องได้รับการผ่าตัดซ้ำบ่อยที่สุด ทั้งนี้การเปลี่ยนลิ้นหัวใจพัลโมนารีผ่านทางสายสวน (percutaneous pulmonary valve implantation, PPVI) เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดระยะเวลาการรอคอยและลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดซ้ำได้ แต่ยังมีค่าใช้จ่ายสูงมาก โดยปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจพัลโมนารีทางสายสวนในเด็กสูงถึง 600,000- 1,000,000 บาท และยังไม่ครอบคลุมสิทธิรักษาในระบบหลักประกันสุขภาพ โดยตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน มีการรักษาแบบผ่าตัดหัวใจแบบสายสวนนี้ แล้ว 50 คน ติดตามผู้ป่วยต่อเนื่องกว่า 10 ปี พบว่า ลิ้นหัวใจใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยกลับมามีชีวิตที่เป็นปกติ
การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยให้เกิดการพัฒนาทักษะการเปลี่ยนลิ้นหัวใจพัลโมนารีทางสายสวนมากขึ้น สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหัวใจในเด็กและวัยรุ่นของประเทศ มีการพัฒนาระบบส่งต่อ ให้ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างสะดวก มีการ Benchmarking และเป็นแหล่งฝึกอบรมให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงผลักดันผลงานทางวิชาการ งานวิจัยแบบมีส่วนร่วม ซึ่งถือเป็นการตอบสนองนโยบายของประเทศ ที่มุ่งเน้นการบริการทางการแพทย์แบบครบวงจรอย่างไร้รอยต่อ และความเป็นเลิศในการรักษาโรคเฉพาะทางระดับตติยภูมิที่ยุ่งยากซับซ้อนแบบมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน เชื่อว่าจะนำไปสู่การขยายความเข้มแข็งไปยังเขตสุขภาพต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิดต่อไป
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ศูนย์ความเป็นเลิศด้านโรคหัวใจเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี , ศูนย์โรคหัวใจนราธิวาสราชนครินทร์ฯ และศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลราชวิถี ได้พัฒนาความร่วมมือทางวิชาการในการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจร่วมในระดับสากลมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ได้รับการสนับสนุนจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านการดูแลโรคหัวใจแต่กำเนิดที่ยุ่งยากซับซ้อนในเด็กจาก Evelina London Children’s Hospital ประเทศอังกฤษ ทำให้มีความเข้มแข็งทั้งการรักษาผู้ป่วย และเกิดผลงานทางวิชาการจำนวนมาก
ส่วนการลงนามบันทึกความร่วมมือฉบับนี้ เป็นการขยายความร่วมมือและผลักดันผลงานทางวิชาการ งานวิจัย การทำ Benchmarking พร้อมจัดตั้งศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ความร่วมมือของศูนย์ความเป็นเลิศด้านโรคหัวใจเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กฯ, ศูนย์โรคหัวใจนราธิวาสราชนครินทร์ รพ.สงขลานครินทร์, ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.ราชวิถี, สถาบันโรคทรวงอก, รพ.มหาราชนครราชสีมา, รพ.สุราษฎร์ธานี และ รพ.หาดใหญ่
ด้าน ผศ.นพ.วรการ พรหมพันธุ์ กุมารเวชศาสตร์-โรคหัวใจ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กฯ กล่าวว่า การผ่าตัดลิ้นหัวใจพัลโมนารีสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด แต่ลิ้นหัวใจเทียมมีเฉลี่ยมีอายุการใช้งาน 10 ปี ก็จะเสื่อมลงและต้องผ่าตัดซ้ำเพื่อเปลี่ยนใหม่ นอกจากนี้ การผ่าตัดแบบเดิมเพิ่มความเสี่ยงการติดเชื้อ 3-5% แต่การผ่าตัดลิ้นหัวใจพัลโมนารีผ่านสายสวนจะช่วยลดความเสี่ยงลง โดยจะสวนจะทำการสวนทางขาหนีบขึ้นไป ในเด็กที่มีน้ำหนัก 30 กิโลกรัมขึ้นไป ทั้งนี้จะเร่งหารือกับสปสช. เพื่อขยายสิทธิประโยชน์

