วันที่ 27 เมษายน 2566 นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ผลข้างเคียงประสาทไขสันหลังและปลายประสาทเสื่อมที่เกิดจากการสูดดมก๊าซหัวเราะ ต้องใช้เวลานานสูดดมต่อเนื่องหลายปีและสูดบ่อยว่าอันตรายถึงพิการได้
ทั้งนี้ นายแพทย์มนูญ ระบุ ว่า ขณะนี้คาดว่าวัยรุ่นไทยจำนวนมากทั้งชายและหญิงเป็นหลักแสนคนดูดก๊าซหัวเราะนานหลายปีแล้ว และคนไข้เริ่มใช้ก๊าซหัวเราะครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี ปีแรกดูดประมาณวันละ 10-20 หลอดโลหะ ปีที่ 2 เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 100-200 หลอดโลหะ ปีที่ 3 บางวันดูดมากถึงวันละ 400 หลอดโลหะ
โดย หลอดก๊าซไนตรัสออกไซด์ N2O 1 หลอดราคาประมาณ 13 บาท เดือนก่อนจะเริ่มมีอาการทางระบบประสาท เสียเงินซื้อก๊าซหัวเราะถึงเดือนละ 1 แสนบาท หลังดูดก๊าซหัวเราะนาน 3 ปีครึ่ง ผู้ป่วยรายนี้เริ่มมีอาการทางระบบประสาท โดยเริ่มที่เท้าก่อน กระดกเท้าไม่ขึ้น เดินขึ้นบันไดไม่ได้ ต่อมามือหยิบของไม่ได้ มือเท้าชาทั้ง 2 ข้าง
เราเริ่มเห็นโรคนี้ และคงจะพบมากขึ้นเรื่อยๆในวัยรุ่นไทย
วัยรุ่น ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ แม้แต่บุคลากรทางการแพทย์เอง ก็รู้จักโรคนี้น้อยมาก เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ ดังนั้นเราต้องช่วยกันสื่อสารให้สังคมรับรู้ถึงอันตรายจากผลข้างเคียงระยะยาวของก๊าซหัวเราะ ก่อนที่วัยรุ่นไทยจำนวนมากจะทุพพลภาพ พิการและช่วยตัวเองไม่ได้จากการสูดดมก๊าซหัวเราะต่อเนื่องเป็นเวลานาน สร้างภาระให้กับครอบครัวและประเทศ