จากกรณีคนงานเมียนมา อายุ 34 ปี เสียชีวิตภายในห้องพัก เขตสาทร กทม. และตรวจ ATK พบเชื้อโควิด 19 เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2566 ซึ่งผลการสอบสวนพบว่า ผู้เสียชีวิตทำงานเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งใน กทม. ไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด 19 มาก่อน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผู้เสียชีวิตได้เล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อน และเริ่มเป็นไข้ มีอาการตาแดง ซื้อยากินเองอยู่แต่ในห้องพัก ไม่ได้เข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาล จนมีผู้มาพบว่า นอนเสียชีวิตในห้องพัก ผลตรวจภาพ CT scan ของศพโดย ระ.จุฬาลงกรณ์ เข้าได้กับภาวะปอดอักเสบชนิดรุนแรง ส่วนผลตรวจทางห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน XBB.1.16.1 ขอย้ำให้ผู้ไม่เคยรับวัคซีน รีบเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสู้กับโควิดสายพันธุ์ต่างๆ

โดย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ด้วย สถานการณ์การระบาดของโควิด 19 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ สัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยรักษาใน รพ. 1,088 ราย เฉลี่ยวันละ 155 คนต่อวัน สูงขึ้น 2.5 เท่าเปรียบเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า คาดว่าจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งประเทศไทยยังมี ยา เวชภัณฑ์สำรอง และเตียงเพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง

ทั้งนี้ขอแนะนำประชาชนเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ประจำปี สำหรับกลุ่มเป้าหมายฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สามารถฉีดพร้อมกันได้ หากป่วยอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจ ATK เลี่ยงใกล้ชิดกลุ่ม 608 เมื่อพบผลบวก 2 ขีด ให้สวมหน้ากาก รีบไปพบแพทย์หากมีอาการหายใจเร็ว หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ถ้าเป็นกลุ่ม 608 ให้รีบพบแพทย์เมื่อทราบผล สำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ให้ไปรับ LAAB ได้ที่ รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป และ รพ.ภาครัฐสังกัดอื่นทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อลดโอกาสป่วยหนักและเสียชีวิต โดยใช้วัคซีนชนิดใดหรือรุ่นใดก็ได้ ฉีดห่างจากเข็มสุดท้ายหรือประวัติการติดเชื้ออย่างน้อย 3 เดือน ไม่ต้องนับว่าเป็นเข็มที่เท่าใด ฉีดพร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ที่ต้นแขนคนละข้าง