เอ็มจีซี เอเชียดึง‘คริส-คราฟท์’เสริมธุรกิจเรือลักชูรี่ ชู ‘ริเวอร์เดล มารีน่า’ เป็นฮับขยายตลาดทั่วอาเซียน

เมื่อเรือลักชัวรี่อเมริกันสไตล์‘คริส-คราฟท์’ เอกสิทธิ์เหนือระดับที่บริษัท เอ็มจีซี มารีน แอนด์ ชาร์เตอร์ (เอเชีย) จำกัด ภายใต้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ผู้จำหน่ายเรือสัญชาติอเมริกันอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยและอาเซียน โดยมีโชว์รูมสวยเด่นสะดุดตาแห่งแรกพร้อมศูนย์บริการครบวงจร ณ โครงการ ริเวอร์เดล มารีน่า ปทุมธานี ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ อินเทรนด์และสมบูรณ์แบบ แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา จึงกลายเป็นความร่วมมือที่ลงตัว ภายใต้แผนการดำเนินงานที่น่าสนใจ

แบรนด์ระดับตำนาน ‘คริส-คราฟท์’

โดย นาย สตีเฟน เอฟ. ฮีสส์, ประธานและซีอีโอ คริส-คราฟท์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า คริส-คราฟท์ เปรียบเสมือนไอคอนที่แท้จริงของวัฒนธรรมอเมริกัน เป็นแบรนด์ระดับตำนานที่ชาวอเมริกันภาคภูมิใจ โดยเรือแต่ละรุ่นสะท้อนความเป็นงานฝีมือคุณภาพสูง หรูหรา และมีรสนิยม สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้ชื่นชอบการล่องเรือ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ระดับลักชัวรี่ไม่เหมือนใคร และวันนี้ชาวไทยจะได้สัมผัสความหรูหรา ล้ำสมัย ที่มาพร้อมนวัตกรรมของเรืออเมริกันสไตล์ การได้เอ็มจีซี มารีนฯ มาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ช่วยขยายตลาดให้กับเรือ คริส-คราฟท์ จากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจในกลุ่มลักชัวรี่ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญและเติบโตเร็วที่สุด นับเป็นการพลิกโฉมไลฟ์สไตล์การเดินทาง และกิจกรรมสันทนาการทางน้ำครั้งสำคัญของภูมิภาคนี้

ขณะที่การเลือกประเทศไทยเป็นแห่งแรกในการร่วมมือกับพันธมิตร และเปิดโชว์รูมแบบครบวงจี ด้วยเป็นเพราะศักยภาพของประเทศไทย ที่มีความพร้อมและมีได้รับการยกย่องว่าเป็น เวนิสตะวันออก ที่มีสายน้ำที่งดงาม ขณะที่ตลาดในอาเซียน มีประชากรรวมกัน 700 ล้านคนและ เป็นตลาดที่สำคัญและมีเศรษฐกิจเติบโตรวดเร็ว มีกำลังซื้อโตสองหลัก โดยในตลาดอาเซียนมีขนาดจีดีพีประมาณ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์

ธุรกิจมารีนยังเป็นตลาด blue ocean

 ด้าน ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) กล่าวว่า ตลาดเรือเพื่อสันทนาการ มีอัตราการเติบโตที่สูงมาก หลังจากวิกฤต โควิด-19 ผ่านพ้นไป พิสูจน์ได้จากไลฟ์สไตล์ของคนมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการทำกิจกรรมสันทนาการทางน้ำ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจมารีน เป็นตลาด blue ocean ที่ยังมีโอกาสในการเติบโตสูง ด้วยความพร้อมในระบบนิเวศทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบของ เอ็มจีซี-เอเชีย ผสานกับประสบการณ์ในการดูแลลูกค้ามาอย่างยาวนาน พร้อมพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง อาทิ ริเวอร์เดล มารีน่า ปทุมธานี และ โอเชียน มารีน่า พัทยา ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมเรือเพื่อสันทนาการและท่องเที่ยว ที่จะสร้างการเติบโตเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในประเทศไทยและอาเซียน ภายใต้ MGC-ASIA Lifestyle Mobility Ecosystem

อีกทั้ง ดร. สัณหวุฒิ กล่าวต่อว่า มีแผนจะขยายตลาดสู่ภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากอาเซียนเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด กับจำนวนประชากรรวมกว่า 700 ล้านคน ผสานพื้นที่ชายฝั่งยาวกว่า 170,000 กิโลเมตร และแม่น้ำสายสำคัญจำนวนมาก ซึ่งเอื้อต่อการทำกิจกรรมทางน้ำได้อย่างสะดวกสบาย ขณะเดียวกันโชว์รูมเรือต้นแบบแห่งแรกในภูมิภาค พร้อมศูนย์บริการครบวงจรของเรา ตั้งอยู่ที่ ริเวอร์เดล มารีน่า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ได้รับการขนานนามว่า ‘The Venice of The East’ พร้อมแผนการสร้างศูนย์ฝึกอบรมครบวงจร (Marine Training Center) ในอนาคต

ซึ่งภาพรวมตลาดเรือสำหรับการล่องแม่น้ำเป็นตลาดที่น่าสนใจ มีจำนวนประมาณ 3,000 ลำ เป็นตลาดเรือพรีเมียมประมาณ 0.5-1%  โดยตลาดเรือแม่น้ำมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง 5-7% ทั้งในไทยและในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะตลาดในไทยได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ๆ มากขึ้น เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไปและสนใจกิจกรรมสันทนาการทางน้ำเพิ่มสูงขึ้น

เสริมธุรกิจธุรกิจไลฟ์สไตล์

ทั้งนี้ ทั้ง ดร. สัณหวุฒิ กล่าวว่า เรือ 'คริส-คราฟท์' จะมาเสริมเสริมธุรกิจไลฟ์สไตล์ โมบิลิตี้จากแนวโน้มตลาดที่ขยายตัวดี โดยก่อนหน้าทางบริษัทได้เป็นผู้จำหน่ายเรือยอชท์ อะซิมุท (AZIMUT) ในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลาร่วม 8 ปีแล้ว และสร้างผลตอบรับที่ดีต่อเนื่อง ทำให้การขยายแบรนด์ใหม่นี้เป็นการต่อยอดธุรกิจ Lifestyle Mobility อย่างครบวงจรมากที่สุด  ซึ่งบริษัทได้โควตาในการจำหน่ายประมาณ 10 ลำ แต่มีกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจจองเข้ามาจำนวนมาก เนื่องจาก บริษัทผู้ผลิตมีศักยภาพในการผลิตประมาณ 400 ลำ แต่ในปัจจุบันมีคำสั่งซื้อมากกว่า 800 ลำ

ขณะที่ตลาดเรือทั่วโลกเติบโตต่อปีประมาณ 7% โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ส่วนตลาดที่มีขนาดใหญ่สุดคือ อเมริกาเหนือ สหรัฐ และยุโรป ทั้งนี้มีการประเมินว่า ตลาดเรือทั่วโลก จะมีมูลค่าถึง 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.61 ล้านล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า  โดยราคาจำหน่ายเรือ คริส-คราฟท์ เริ่มต้น 7.29 ล้านบาท จนถึงระดับ 15-18 ล้านบาท โดยบริษัทมีบริการสินเชื่อของเรือยอร์ช และในอนาคตจะเปิดให้บริการเช่าเรือด้วย