วันที่ 26 เม.ย.66 นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคผิวหนังที่พบบ่อยในหน้าร้อน แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักๆคือ กลุ่มที่ 1 ผดร้อน เกิดจากเหงื่อที่ออกมากในช่วงที่อากาศร้อนร่วมกับการกดทับหรือใส่เสื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศ ทำให้เกิดผื่นสีแดง ที่มีอาการคัน อาการแสบได้ แนะนำให้มาพบแพทย์ กลุ่มที่ 2 ฝ้าและกระ เกิดจากแสงแดดไปกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น ทำให้โรคในกลุ่ม ฝ้า กระ มีสีที่เข้มขึ้นได้ในช่วงหน้าร้อน กลุ่มที่ 3 กลุ่มติดเชื้อราต่างๆ อากาศร้อน ส่งผลให้เหงื่อออกเยอะ ทำให้ผิวหนังมีความอับชื้น เกิดการติดเชื้อราซ้ำซ้อน ทำให้เกิดโรคผิวหนังตามมา บริเวณที่พบบ่อย เช่น บริเวณรักแร้ ซอกพับ หรือง่ามมือง่ามเท้า ซึ่งพบได้บ่อยและเกิดได้ในทุกช่วงวัย

แพทย์หญิงประภาวรรณ เชาวะวณิช รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวว่าหากมีอาการผิดปกติ 1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงโดยที่ไม่ได้ป้องกัน 2. การทากันแดดอย่างสม่ำเสมอ ในปริมาณที่เพียงพอ คือประมาณสองข้อนิ้ว และหมั่นทาซ้ำบ่อยๆ ทุกๆสองชั่วโมง 3.ใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หมวก ร่ม 4. ถ้ามีผื่นหรือความผิดปกติใด ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง