โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ รับทราบความคืบหน้าเตรียมเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 9 พ.ค.นี้ เชื่อมั่นช่วยเสริมสร้างสิทธิประโยชน์ทางการค้า ผลักดันเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย

วันนี้(26 เมษายน 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบความคืบหน้าการเตรียมเจรจาการทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 จากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าความตกลงการเจรจานี้จะสามารถเพิ่มมูลค่าการค้าให้กับประเทศไทย รวมทั้งสร้างโอกาสการพัฒนาทางเศรษฐกิจไทยให้เติบโต

โดยไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูง โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทยในตลาดโลก และอันดับที่ 1 ในตะวันออกกลาง ในปี 2565 การค้าระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีมูลค่าสูงกว่า 20,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 700,000 ล้านบาท การเจรจาเพื่อทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) จะช่วยส่งเสริมสิทธิประโยชน์ทางการค้าระหว่างกันได้มาก ซึ่งในวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 จะมีการเจรจาความร่วมมือทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) อย่างเป็นทางการ 

ทั้งนี้ภายหลังการทำ FTA กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศไทยจะได้สิทธิประโยชน์ทางการค้าหลากหลายรายการ เช่น สามารถส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลางโดยได้รับการยกเว้นภาษี ได้สิทธิกับกลุ่มประเทศคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) ที่ประกอบด้วยสมาชิก 6 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย คูเวต โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และบาห์เรน ไปด้วย 

“นายกรัฐมนตรีรับทราบการเตรียมความพร้อมในการเจรจา FTA ระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเชื่อมั่นว่าเมื่อการเจรจาครั้งนี้สำเร็จจะเป็นอีกโอกาสสำคัญให้กับการค้าของไทยในตลาดภูมิภาคตะวันออกกลาง ทั้งนี้รัฐบาลมีนโยบายแสวงหาตลาดทางการค้า การลงทุน กับต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพิ่มสัมพันธ์ทางการลงทุน และเพื่อโอกาสสินค้าไทยสู่ตลาดสากล” นายอนุชากล่าว