จับแล้วโจรชิงทอง ขณะขี่จยย.กลับมาที่ระยอง สารภาพทำไปเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้ หลังกู้มาจ่ายค่าปรับเมาแล้วขับ 

จากกรณี หนุ่มบุกเดี่ยวจี้ชิงทอง ที่ห้างทองพรีเมี่ยมโกลด์ เยาวราช สาขาห้างสรรพสินค้าโรบินสันสาขาบ้านฉาง ริมถ.สุขุมวิท ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนักประมาณ 18 บาท โดยคนร้ายเป็นผู้ชายรูปร่างผอม สวมหมวกผ้าสีน้ำตาล ใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้ามิดชิด ใข้อาวุธปืนสั้นออกมาขู่2พนักงานที่เป็นผู้หญิง ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนตู้กระจกโชว์ทอง แล้วกระชากเอาสร้อยคอทองคำในถาดไป แล้ววิ่งออกจากห้างไปขี่จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียน มีจุดสังเกตเบาะรถสีแดง และ ใส่ล้อแม็กซ์ ตรวจสอบทราบขี่ออกไปทางถ.สุขุมวิท แล้วกลับรถเข้าตัวเมืองบ้านก่อนจะเลี้ยวลงไปในซอยที่ไปชายหาดพลา แล้วก็หายตัวไป เจ้าหน้าที่เน่งออกสกัดล่าตัวคนร้าย พร้อมแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี แต่ปรากฎว่ายังไม่พบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจ.ระยอง ได้เข้าตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝงตฃของคนร้ายในร้านทองเกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสคนร้าย ล่าสุดพบว่าหลบหนีไปกบดาน ที่ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จนกระทั่งตามรอยจนพบเอาทองไปขายที่ร้านทอง ในต.หนองขาม จ.ชลบุรี สืบจนทราบชื่อ จนต่อมาศาลจ.ระยอง ได้อนุมัติหมายจับนายฐิติพงศ์ สายรวมญาติ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่19 ม.2 ต.งิ้วลาย จ.ลพบุรี เบื้องต้นคาดยังหลบหนีกบดานอยู่ในพื้นที่ชลบุรีและระยอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 25 เม.ย. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.พงษ์พันธ์ วงศ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าคนร้ายชิงทอง  ได้ควบคุมนายฐิติพงศ์ สายรวมญาติ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาชิงทองห้างทองพรีเมี่ยมโกลด์ เยาวราช โรบินสันบ้านฉาง จ.ระยอง โดยควบคุมมาทำการสอบสวน พร้อม ที่ สภ.บ้านฉาง ระยอง

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้เปิดเผยว่า จากการที่วางกำลังติดตามผู้ต้องหา จนกระทั่งพบว่า ผู้ต้องหา ได้จี่จยย.จากจ.ชลบุรี มุ่งหน้าเข้าสู่ระยอง จึงติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา ขณะกำลังขี่จยย.ซึ่งเป็นคันเดียวกับที่ใช้หลบหนี มาบนถนนสาย36 ม.7 อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง จึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำจำนวนน้ำหนัก 17 บาท แหวนทองคำ 1 วง เงินสดจำนวน 62,820 บาท และ อาวุธปืนสั้นที่ใช้ก่อเหตุ โดยผู้ต้องหายอมให้จับกุมโดยไม่ขัดขืน จึงนำตัวกลับมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 ได้กล่าวว่า สำหรับการขับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการ การทำงานระหว่างตำรวจและภาคประชาชน จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง สร้อยที่ชิงไป จำนวน 17 บาท ที่ยังขาดหายไปอีกหนึ่งเส้น น้ำหนัก 1 บาท โดยจับกุมได้ขณะที่ผู้ต้องหาขี่จยย.กลับมาที่ระยอง  โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำไปเพราะความคิดชั่ววูบ ต้องการนำเงินไปใช้หนี้ ที่กู้ยืมมาจ่ายค่าปรับคดีเมาแล้วขับ ที่ถูกจับในพื้นที่จ.ชลบุรี โดยไม่แรงจูงใจอื่น ตรวจสอบประวัติไม่พบว่าเคยต้องโทษมาก่อน และ ไม่เคยติดหนี้เรื่องการพนันแต่อย่างใด โดยแจ้งข้อกล่าวหา "วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด หรือ พาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม"

ต่อมาได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาที่ ห้างสรรพสินค้าโรบินสันสาขาบ้านฉาง โดยนายฐิติพงศ์ สายรวมญาติ อายุ 32 ผู้ต้องหาสวมใส่เสื้อผ้าสวมหมวกและ ใส่รองเท้า ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ใส่ก่อเหตุ มาทำแผนประกอบคำรัยสารภาพ ที่บริเวณหน้าร้านทองที่เกิดเหตุ ท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่มามุ่งดูกันจำนวนมาก

โดยเริ่มจากการเดินเข้ามาที่ร้านทอง แล้วชักแาวุธปืนขึ้นมาขู่พนักงาน หลังพนักงานหลบ กํปีนขึ้นไปบนตู้ทองแบ้วก็กระชากสร้อย แล้ววิ่งหลบหนีไปทางหน้าห้าง ก่อนจะขี่จยย.หลบหนีไป หลังจากทำแผนเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่ สภ.บ้านฉาง ระยองเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป