บอร์ด กกพ.ไฟเขียวลดค่าไฟ 7 สต. เหลือ 4.70 บาท/หน่วย ชาวบ้านได้ลดค่าไฟจากงวดแรก 2 สต. ใช้ทันบิลเดือน พ.ค.นี้ ด้าน กปน. จ่อปรับขึ้นค่าน้ำประปา หลังค่าไฟพุ่ง

     เมื่อวันที่ 24 เม.ย.66 นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง(กปน.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กปน.ได้รับผลกระทบจากต้นทุนหลักการผลิตน้ำประปาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นมาก ประกอบ 4 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรัฐบาลเรียกเก็บที่ราชพัสดุ กปน.ต้องเสีย 150 ล้านต่อปี จากเดิมไม่ต้องเสีย 2.ค่าน้ำดิบจ่ายให้กับกรมชลประทานวันละ 3 ล้านบาท 3.ค่าไฟที่เพิ่มขึ้น 20-30% หรือประมาณ 20 ล้านบาทต่อเดือน จากค่าเอฟทีของรอบเดือนม.ค.-เม.ย.66 ปรับขึ้นกว่า 90 สตางค์ 4.ค่าธรรมเนียมการวางท่อเป็น 100 ล้านบาทต่อปี
    
 ขณะที่ นายมงคล วัลยะเสวี รองผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค กล่าวว่า ตอนนี้ กปภ.อยู่ระหว่างศึกษาโครงสร้างค่าน้ำใหม่ ตามต้นทุนเพิ่มขึ้น 15-20% จากค่าไฟ ค่าสารเคมี เพื่อขอขึ้นค่าน้ำ หลังไม่ได้ขึ้นมากว่า 10 ปี โดยคาดว่าอีก 2 เดือน จะแล้วเสร็จ จากนั้นเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาว่าจะให้ปรับขึ้นหรือไม่ หรือจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป 
     
วันเดียวกัน นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กกพ.วันนี้(24 เม.ย.) มีมติอนุมัติตามที่คณะอนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ที่เห็นชอบตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอรับภาระยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้า ทำให้ค่าไฟลดลง 7 สตางค์ต่อหน่วย จากเดิม 4.77 บาทต่อหน่วย เป็น 4.70 บาทต่อหน่วย เทียบจากงวดปัจจุบันค่าไฟอยู่ที่ 4.72 บาท โดยไม่ต้องรับฟังความเห็น ให้โพสต์ผ่านทางเว็บไซต์ให้ประชาชนทราบ เนื่องจากเป็นการพิจารณาตามหนังสือของ กฟผ.เท่านั้น ซึ่งจะทันบิลวันที่ 1 พ.ค.66