วันที่ 24 เม.ย. 66 นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang ระบุว่า...

ในอดีตเราไม่เคยสู้ ไม่ใช่ประชาธิปไตยของแท้จริงหรือ ? ชวนทุกคนมองย้อนกลับไปครับ

พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองแรกที่ออกไปฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนมาทำนโยบาย เมื่อชนะการเลือกตั้ง เราใช้เวลา 4 ปีทำสำเร็จทุกนโยบายที่หาเสียงไว้ จนทำให้คนไทยเห็นความสำคัญของ “ประชาธิปไตยกินได้”

รัฐประหารทั้ง 2 ครั้ง เราถูกยุบพรรคทั้ง 2 ครั้ง

เมื่อตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร พี่น้องประชาชนออกมาต่อสู้ นักการเมืองที่ร่วมต่อสู้กับประชาชนและต้องไปติดคุกติดตาราง ต้องหนีออกไปอยู่ต่างประเทศมากที่สุด คือนักการเมืองจากพรรคเพื่อไทย

เผด็จการจัดทำรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยให้ลงประชามติ พรรคการเมืองที่ลุกขึ้นยืนประกาศชัดเจนไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญ และเชิญชวนพี่น้องประชาชนลงประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญคือพรรคเพื่อไทย

รัฐประหารปี 2557 ผมไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช. แต่ออกไปแถลงต่อต้านรัฐประหาร ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าจะมีทหารมาจับกุมตัว แต่ผมก็ออกไปแถลงคัดค้านการรัฐประหารจนถูกจับกุมและติดคุก รวมถึงนักการเมืองของพรรคเพื่อไทยหลายคนก็ถูกจับไปขังในค่ายทหารก่อนหน้านั้นแล้ว

และเพราะเราเผชิญมาทุกรูปแบบ จนรู้ว่าที่เราทำไปทั้งหมดนี้ยังไม่พอ เพราะถ้าจะต่อต้านรัฐประหารให้ได้ต้องทำหลายเรื่อง

1. เราจะผลักดันให้มี ส.ส.ร.เพื่อแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยคงรูปแบบการปกครองแบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นอกนั้นสสร.ที่มาจากประชาชนจะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยแก้เต็มที่ได้ ไม่มีเพดาน

2. กำหนดในรัฐธรรมนูญว่าการรัฐประหารถือเป็นกบฏร้ายแรง คดีไม่มีอายุความ และไม่มีการนิรโทษกรรมใด ๆ

3. ห้ามมิให้องค์กรหรือหน่วยงานของรัฐยอมรับการทำรัฐประหารว่าเป็นรัฏฐาธิปัตย์

4.ปรับปรุงบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน เช่น มีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม เมื่อมีรัฐประหารก็สามาถออกมาชุมนุมต่อต้านได้ตามสิทธิเสรีภาพของตน

พรรคเพื่อไทยจะทำ 2 เรื่องไปพร้อม ๆ กัน คือแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่เราประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมาแล้ว และพรรคเพื่อไทยก็จะให้ความสำคัญกับการต่อต้านคัดค้านเผด็จการและการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเราทำได้มาตลอด

ทั้ง 2 เรื่องนี้เรามั่นใจว่าเราทำได้ไม่แพ้ใครในประเทศนี้