วันที่ 24 เม.ย.66 พ่อแม่ร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจเมื่อเห็นศพของลูกชายนอนเสียชีวิตใต้ต้นเสม็ดขนาดใหญ่ กลางสนามบินชั่วคราว กองทัพอากาศจังหวัดสตูล  ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล หลังบุตรชายทั้งสองได้ขออนุญาตพ่อแม่มาเล่นว่าวเหมือนทุกครั้ง ณ ที่แห่งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.66) พร้อมกับเพื่อน 3 คน ซึ่งอยู่ในวัย 17 ปี 2 คนและ 11 ปี 1 คน โดยเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบการเล่นว่าวเหมือนกัน  

โดยก่อนเกิดเหตุเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม ทางบ้านโทรมาตามให้รีบกลับไปทำธุระ เหลือหนุ่มน้อยคือนายฤธิรัญ (ขอสงวนนามสกุล) วัย 17 ปี และน้องเอี๊ยม (นายสมมุติ) วัย 11 ปี ยังคงเล่นว่าวกันอยู่ที่สนามบินดังกล่าวซึ่งเป็นลานกว้างเล่นว่าวของทางจังหวัดที่ขึ้นชื่อระดับประเทศ แต่จู่ๆ ในวันเกิดเหตุช่วงบ่ายกลับมีฝนตกหนักท้องฟ้ามืดครึ้ม ทั้งที่อยู่ในช่วงหน้าร้อนเพื่อนของหนุ่มน้อยทั้งสองที่เสียชีวิตได้รีบฝ่าสายฝนเพื่อที่จะมารับเพื่อนที่เล่นว่าวอยู่อีก 2 คน เมื่อมาถึงจุดเล่นว่าวกลับไม่พบตัว พบเพียงว่าวที่เล่นตกอยู่ที่ลานกว้าง มองหาแล้วไม่เจอ  ประกอบกับฝนตกหนักและมีสายฟ้า  

น้องที่เป็นเพื่อนกับผู้ตายทั้งสอง เล่าว่า ทำธุระเสร็จก็รีบมารับเพื่อนกลางสายฝนตอนนั้นในใจคิดว่าเพื่อนต้องไม่มีที่หลบฝนแน่เลยเพราะฟ้าครึ้ม  มีเสียงฟ้าแรงมากแต่มาถึงก็ไม่เจอเพื่อนทั้ง 2 แล้วเมื่อหาไม่เจอก็รีบไปบอกครอบครัวของเพื่อนให้มาช่วยกันตามหาตั้งแต่เย็นเมื่อวานนี้แต่ไม่เจอ มาเจอในช่วงเช้าขณะเดินตามหาเหลือบไปเห็นเสื้อสีม่วงคล้ายของเพื่อนใส่เมื่อเดินเข้าไปดูก็พบว่าเพื่อนนอนฟุบทั้งสองคน ในสภาพแน่นิ่ง

ขณะที่นายหิรัญ (ขอสงวนนามสกุล) พ่อผู้เสียชีวิต เมื่อมาถึงในที่เกิดเหตุเล่าเหตุการณ์ให้กับสื่อมวลชนฟังว่า ลูกชายวัย 17 ปีชอบเล่นว่าวเป็นชีวิตจิตใจและชอบตกปลาตามประสาเด็กหนุ่ม ตนก็ไม่ได้ห้ามอะไร แต่เมื่อวานนี้ยอมรับว่ามีฝนตกหนักหลังจากที่ฝนหยุดตกมาหลายเดือน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าลูกเสียชีวิตเกิดจากอะไร แต่สภาพคล้ายไฟไหม้ เมื่อวานนี้ก็ได้หากันทั้งวันแล้วโดยหมอดูที่จังหวัดนครศรีธรรมราชบอกว่า ลูกอยู่ทางทิศตะวันออก ของจุดเกิดเหตุ เมื่อเดินไปดูก็พบลูกนอนฟุบสภาพก้มหน้าทั้งคู่ใต้ต้นเสม็ด   

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล หลังทราบข่าว ได้รีบเข้าตรวจสอบในพื้นที่ และเร่งประสานทีมแพทย์จากโรงพยาบาลสตูล พิสูจน์สาเหตุ การเสียชีวิตที่แท้จริงในครั้งนี้

ขณะที่ด้านนายอับดลมานับ หลงหัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกดตรี ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ใช้บริการวิ่งออกกำลังกายภายในสนามบินชั่วคราวกองทัพอากาศนี้ เปิดเผยว่า จากที่ดูสภาพศพของหนุ่มน้อยทั้งสอง เชื่อได้ว่าถูกสายฟ้าฟาด ขณะมาเล่นว่าวยังสนามว่าวระดับประเทศแห่งนี้ ซึ่งเป็นภาพที่สลดใจของผู้พบเห็นที่จะต้องสูญเสียเยาวชนอนุรักษ์ว่าวไทย ทั้งที่ไม่น่าเกิดเหตุ พร้อมอยากจะนำเรื่องการเสียชีวิตของหนุ่มน้อยทั้งสองเข้าที่ประชุมระดับจังหวัดเพื่อหามาตรการป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย หรือให้มีการทำป้ายเตือนสำหรับผู้เล่นว่าวในที่โล่งแจ้ง โดยโบราณเขาก็ไม่ให้มีการหลบฟ้าร้องใต้ต้นไม้  ซึ่งเด็กอาจจะยังไม่ทราบจนเป็นเหตุให้ต้องสูญเสียชีวิตในครั้งนี้