เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้โพสต์คลิปวีดีโอ ความยาว 20 วินาที ปรากฏเป็นภาพของหญิงสาวกับทนายตั้ม ซึ่งทั้งสองอยู่ในสนามบิน โดยมีภาพเจ้าหน้าที่ภายสนามบินยืนไหว้ต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นเป็นภาพตำรวจท่องเที่ยวจำนวน 2 นาย เข้าไปช่วยเหลือลากกระเป๋าเดินทางไปยังจุดตรวจ และสุดท้ายทนายตั้มเข้ามาเซลฟี่โบกมือและสวมกอด
ทั้งนี้นายชูวิทย์ ได้โพสต์ข้อความบรรยายคลิปนี้ว่า ทนายตั้มผู้ยิ่งใหญ่ ใหญ่ไม่ใหญ่วัดกันที่สนามบิน อย่างผมเป็นประชาชนคนเดินดิน จะเดินทางไปไหนก็ต้องเข้าแถวหน้าเคาน์เตอร์ จะโหลดกระเป๋าก็ต้องแบกเองตามระเบียบ ไม่มีใครมารอต้อนรับ ไม่มีตำรวจมาช่วยยกกระเป๋า แต่อย่างทนายตั้ม ที่ผมบอกว่าเป็นเด็กในคาถาของ “เทพ จ.” ถึงกับจัดตำรวจไปรับไปส่งอย่างที่เห็นในคลิปที่เอามาโชว์ จะได้เลิกปฎิเสธว่า “ทนายตั้ม” เป็นเด็ก เพราะถึงเป็นเด็ก แต่ก็เป็นเด็กของผู้ใหญ่ จึงใหญ่ไปด้วย คลิปนี้ยืนยันให้เห็นว่าทนายตั้มเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ตำรวจต้องมาต้อนรับ หิ้วกระเป๋า อำนวยความสะดวกถึงประตูเครื่องบินทั้งขาเข้าขาออก เห็นแบบนี้ชาวบ้านอย่างเราก็ได้แต่อิจฉา ใครๆ ก็อยากสบายไม่ต้องรอต่อแถว
อยากทราบอย่างเดียว ทนายตั้มมีอะไรดีถึงต้องมีตำรวจมาช่วยแบกกระเป๋า เจ้าหน้าที่เข้าแถวต้อนรับ? ทนายตั้มเป็นทนายประชาชนไม่ใช่หรือ? ว่าความคงไม่รวย แต่เป็น “หน้าเสื่อ” ใครนี่สิ รวยเร็ว รวยกว่า มากบารมี ถึงขนาดต้องจัดตำรวจมาต้อนรับ เมืองไทยก็อย่างนี้ล่ะครับ เส้นไม่ใหญ่จริงทำไม่ได้หรอกครับ ทนายตั้มเขาเส้นก๋วยจั๊บครับ ขอบคุณคลิปจาก ออยศรีและผองเผือก
โดยหลังคลิปและข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่า “ทนายตั้ม” ได้ใช้เฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิดเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” เข้ามาโพสต์ตอบโต้ว่า สวัสดีครับพี่ชูวิทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ขอบคุณที่ตามติดชีวิตผมนะครับ แต่ถึงขั้นไปดูดคลิปลูกความผม ที่กำลังเดินทางกลับต่างประเทศ แล้วอัดคลิปมาลง เพราะมีความสุข โดยไม่สนความจริงว่า ตำรวจที่มาช่วยยกของก็คือเดินสวนกันแล้วเขาจำหน้าได้ก็เลยมาทักทาย เห็นพี่ลูกความกระเป๋าหนัก ก็เลยช่วยถือ ตามประสาคนมี Service Mind ที่ดี ไม่พอใจผม เกลียดผม โจมตีผม ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ เข้าใจได้ คนมีประเด็นกัน แต่ถึงขั้นไปดูดคลิปคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาลงเพจ คนติดตามเป็นล้าน ผมว่ามันไม่แมน หรือนี่คือสิ่งที่สุดยอดมหาโจรเขาทำกัน?
ขณะที่นายชูวิทย์ ได้โพสต์สวนกลับไปว่า อ้าว เห็นอยากดัง ทนายเด็กๆ เขาเห็นแล้วอยากรวยเหมือนทนายตั้มกันทั้งนั้น ขึ้นลิฟต์ความเร็วสูงจากข้างโรงพักกระทุ่มแบนมาออฟฟิตหรูใจกลางสาทร น่าศึกษาเป็นกรณีตัวอย่าง ชีวิตแบบนี้ขนาดผมยังทำไม่ได้ เพราะไม่ได้มีบุญวาสนาเป็นนิ้วให้ตำรวจ “เทพ จ.” เป็นทนาย แต่มีตำรวจมาต้อนรับเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ จะมีสักกี่คนในแผ่นดินไทย?