“เศรษฐา”นำทีมพรรคเพื่อไทย เปิดปราศรัยใหญ่เพชรบูรณ์ บอกถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนแปลง ลั่น พท.พร้อมออกเอกสารสิทธิ์ 50 ล้านไร่ทั่วประเทศ ชู “เขาค้อ” เป็นพื้นที่นำร่อง
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นปราศรัยพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ภายในโดมโรงเรียนวิทยานุกูลนานี ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ท่ามกลางแฟนคลับที่เดินทางมาร่วมล้นเวที
นายณัฐวุฒิ ได้กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า การที่พลเอกประยุทธ์ได้โจมตีนโยบายเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย แต่ต่อมาเห็นว่ากระแสของพรรคเพื่อไทยดีขึ้นเรื่อยๆ พลเอกประยุทธ์กลับมาบอกว่าพรรคตัวเองให้มากกว่าอีก โดยโอนให้เดือนละ 1,000 บาท 12 เดือน รวมเป็นเงิน 12,000 บาท เป็นการหยอดน้ำข้าวต้มให้คนป่วย เหมือนการเลี้ยงไข้ ไม่เหมือนของพรรคเพื่อไทยที่ให้ตูมเดียว 10,000 บาท จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที
ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิยังได้เลียนแบบลักษณะท่าทางและเสียงพูดของพลเอกประยุทธ์สร้างเสียงหัวเราะจนเสียงดังไปทั้งโดม
นอกจากนั้นนายณัฐวุฒิยังได้กล่าวว่า นโยบายหนึ่งของพรรคเพื่อไทยคือการออกเอกสารสิทธิ์ 50 ล้านไร่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในอำเภอเขาค้อจะทำเป็นที่แรก เป็นต้นแบบของนโยบายนี้ จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพิสูจน์สิทธิ์และออกเอกสารสิทธิ์
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีโดยพูดถึงนโยบายของพรรคบางพรรค ว่าจะออกมาแก้ไขเรื่องน้ำมันราคาแพงบ้าง ไฟฟ้าราคาแพงบ้าง แล้วตอนที่เป็นรัฐบาลมาตั้ง 8 ปี ทำไมไม่ทำ แสดงว่าไม่มีความจริงใจ จึงหมดเวลาแล้วที่จะมาพูดเรื่องนี้ และเป็นเวลาของพรรคไทยรักไทยที่จะเข้ามาบริหารจัดการกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยสามารถทำได้ รวมถึงนโยบายที่จะทำเพื่อพี่น้องประชาชนคือปริญญาตรีเงินเดือน 25,000 บาท ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท
ต่อข้อถามกรณีที่พลเอกประยุทธ์ได้หารือกับ กกต.ว่าจะขออนุญาตใช้งบกลางเพื่อนำมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากค่าไฟแพงอยู่ในขณะนี้ว่าจะมีผลกระทบต่อคะแนนเสียงหรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่าสังคมไทยมันก็ต้องมีความสง่างามอยู่บ้าง พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน ก็เป็นเรื่องดีที่มีการให้การช่วยเหลือ แต่อยากให้มองการแก้ปัญหาระยะยาว เราต้องมาดูว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ลูกหลานจะอยู่ด้วนโยบายของใคร ซึ่งพรรคเพื่อไทยมั่นใจในนโยบายเศษฐกิจระยะยาวว่าจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นพื้นที่ของเลขาพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทยมั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถแย่งเก้าอี้ได้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายเศรษฐากล่าวว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมชาวบ้านยังเดือดร้อนกันอยู่ ถึงเวลาแล้วที่พี่น้องประชาชนชาวเพชรบูรณ์จะต้องเปลี่ยนแปลงเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทย.