ตัวแทนชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน อ.นางรอง  จ.บุรีรัมย์   รวมตัวเรียกร้องให้เจ้าอาวาสวัดดังชี้แจงรายรับ-รายจ่ายเงินวัดที่หลวงพ่อบริหารจัดการเอง   แต่เจ้าอาวาสชิ่งหนีอ้างติดกิจนิมนต์ส่งโยมคนสนิทชี้แจงแทน  สร้างความไม่พอใจกับชาวบ้านจนเกิดการโต้เถียงปะทะคารมกันอย่างดุเดือด หวิดวางมวยบนศาลาวัด  ตร.ต้องเข้าเคลียร์หวั่นบานปลาย     

วันที่ 21 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ตัวแทนชาวบ้านจาก 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านหนองเสม็ด  บ้านสะเดา  และบ้านทุ่งมน  ในพื้นที่ ต.สะเดา  อ.นางรอง  จ.บุรีรัมย์  ได้รวมตัวกันเดินทางไปยังวัดดังในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเรียกร้องให้ เจ้าอาวาสออกมาชี้แจงรายรับ-รายจ่ายเงินวัดตั้งแต่ปี 2564 – 2566   โดยชาวบ้านอ้างว่าที่ผ่านมาเจ้าอาวาสตั้งตัวบริหารจัดการเงินเองทั้งหมด ทั้งเงินที่มีผู้มีจิตศรัทธา  ญาติโยมบริจาคทำบุญ  รวมถึงที่เงินกฐิน  ผ้าป่า   หรือเงินทำบุญโครงการต่างๆ    ไม่เคยชี้แจงให้กรรมการ หรือญาติโยมรับทราบเลย    ที่ผ่านมาชาวบ้านเคยขอให้เจ้าอาวาสแจงรายรับ-รายจ่ายหลายครั้ง  แต่เจ้าอาวาสก็อ้างว่าติดภารกิจไม่เคยออกมาชี้แจงเลย   ครั้งนี้จึงได้เชิญนายจักรกฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง    เจ้าคณะตำบล   กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  มาร่วมรับฟังข้อสงสัยที่ชาวบ้านจะซักถาม    และการชี้แจงของเจ้าอาวาสด้วย   เพื่อความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย   ทั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาร่วมดูแลความเรียบร้อยด้วย  

แต่พอชาวบ้านเข้าไปในศาลาวัด   เพื่อรอทางเจ้าอาวาสมาชี้แจง  กลับมีตัวแทนเจ้าอาวาสมาแจ้งว่าท่านเจ้าอาวาสติดกิจนิมนต์ไม่สามารถมาชี้แจงด้วยตัวเองได้   จึงมอบหมายให้นายสุนันท์  ชูศรี อายุ 64 ปี  เป็นคนมาชี้แจงแทนเจ้าอาวาส   แต่เมื่อชาวบ้านได้ทำการซักถามเกี่ยวกับรายรับ-รายจ่าย  ที่เจ้าอาวาสเป็นคนบริหารจัดการ   นายสุนันท์   ก็ได้นำสมุดจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย  ออกมาชี้แจงเท่านั้น แต่ไม่มีหลักฐานการเบิกถอนเงินมาให้ชาวบ้านดู    ซึ่งรายการที่ตัวแทนเจ้าอาวาสนำมาชี้แจงหลายอย่าง  ไม่ตรงกับที่ชาวบ้านมีข้อมูลรายรับ-รายจ่าย   จนเกิดการโต้เถียงกันระหว่างชาวบ้านและตัวแทนเจ้าอาวาสอย่างดุเดือด  ถึงขั้นมีการชี้หน้าต่อว่ากัน และหวิดจะเกิดการวางมวยกันบนศาลาวัด   เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้าเคลียร์และกันทั้งสองฝั่งออก    เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย     

โดยนางสายชล  อายุ 55 ปี ตัวแทนชาวบ้าน   บอกว่า   ที่ชาวบ้านรวมตัวกันมาวันนี้  เพราะอยากให้เจ้าอาวาสชี้แจงรายรับ-รายจ่าย  เงินวัด ตั้งแต่ปี 2564 - 2566   ที่ทางเจ้าอาวาสบริหารจัดการเองรูปเดียวมาตลอด  ไม่ได้ชี้แจงให้กรรมการวัด หรือญาติโยมได้รับทราบอย่างโปร่งใส   อีกทั้งเจ้าอาวาสจะนำเงินวัดไปใช้จ่ายหรือก่อสร้างอะไรก็ไม่เคยปรึกษาหารือกรรมการวัด หรือญาติโยมเลย     และที่ชาวบ้านมาวันนี้ก็อยากให้เจ้าอาวาสชี้แจงการบริหารจัดการเงินวัด   เพื่อให้ญาติโยมเกิดความศรัทธา    แต่เจ้าอาวาสกลับไม่ยอมมาชี้แจงแจ้งว่าไปรับกิจนิมนต์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าไปจริงหรือไม่   แต่ส่วนตัวมองว่าคนเราถ้ามีความสุจริตโปร่งใสก็ควรจะออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง  ไม่ควรจะหนีปัญหา  เพราะชาวบ้านแค่อยากทราบข้อเท็จจริงไม่ได้มาเอาผิด หรือขับไล่อะไร     

ด้านนายสุนันท์  ตัวแทนเจ้าอาวาสที่มาชี้แจงข้อสงสัยของชาวบ้าน  บอกว่า  เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา  ได้มีชาวบ้านเข้ามาโวยวายกล่าวหาเจ้าอาวาสที่วัดเกี่ยวกับการนำเงินวัดไปใช้จ่าย  โดยไม่ฟังเหตุผลข้อเท็จจริง   แต่กลับกล่าวหาว่าเจ้าอาวาสเอาเงินไปใช้เงินหายจากบัญชีเป็นล้าน  ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้มีเงินหายไปเลย    แต่เป็นความคิดอคติและอุปโหลกขึ้นมาเองว่ามีเงินเท่านั้นเท่านี้แล้วหายไปเท่านั้นเท่านี้   ทั้งที่ไม่เป็นความจริง   ส่วนที่เจ้าอาวาสไม่ออกมาชี้แจงด้วยตัวเองแต่มอบหมายให้ตนมาชี้แจงแทน  เนื่องจากท่านติดภารกิจจริงๆ   

ส่วนนางนกเอี้ยง  พิมพ์อริยะธาดา  ผู้ใหญ่บ้านสะเดา    บอกว่า  ในฐานะที่ตนเองเป็นผู้นำและเป็นคนกลาง   ก็อยากให้ชาวบ้านและวัดปรองดองกันเพื่อให้มีคนเข้ามาทำบุญที่วัดมากขึ้น   แต่เนื่องจากวันนี้ท่านเจ้าอาวาสไม่ได้มาชี้แจงรายรับ-รายจ่าย ตามที่ชาวบ้านเรียกร้องด้วยตัวเอง  ทำให้ไม่ได้ข้อสรุป  ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว   อย่างไรก็ตามในฐานะผู้นำก็จะได้หาแนวทางให้เกิดความปรองดองระหว่างวัดกับชุมชน  เพื่อไม่ให้กระทบต่อความศรัทธา