รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แจ้งว่า สถิติการใช้ไฟฟ้าในระบบ 3 การไฟฟ้าพบว่า วันที่ 20 เม.ย.66 เกิดความต้องการใช้สูงสุด (พีก) ในปีนี้ที่ 33,062 เมกะวัตต์ เมื่อเวลา 20.50 น. อุณหภูมิ 31.8 องศาเซลเซียส
สำหรับบ่ายวันนี้(21 เม.ย.) อนุกรรมการค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที ) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะพิจารณาเรื่องการปรับลดค่าไฟฟ้าเอฟทีสำหรับ งวดที่2/66 (พ.ค.-ส.ค.66 ) ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เสนอขอยืดหนี้การชำระค่าไฟฟ้าที่รับภาระแทนประชาชนไปก่อนจาก 2 ปี เป็น 2ปี 4 เดือน ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยงวดที่ 2 ของปีนี้ เดือน พ.ค.-ส.ค. ลดลงจาก 4.77 บาทเป็น 4.70 บาท/หน่วย โดยคาดว่าจะได้รับความเห็นชอบ และบอร์ด กกพ.จะประชุมนัดพิเศษวันจันทร์ที่ 24 เม.ย.66 เพื่อมีมติทบทวนค่าไฟ และจะเปิดรับฟังความคิดเห็นอีกรอบ ก่อนประกาศใช้ต่อไป
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)กล่าวว่า การทบทวนค่าเอฟทีหวังจะลดลงเหลือต่ำกว่า 4.40 บาท/หน่วยตามที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ได้เสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมไปแล้วเมื่อ 10 เม.ย.66 โดยเสนอให้ยืดหนี้ จ่ายคืนแก่ กฟผ.จาก 2 ปี เป็น 3 ปีโดยไม่กระทบสถานะทางการเงินของ กฟผ.มากเกินไปในช่วงต้นทุนพลังงานขาลง และขอให้ปรับลดสูตรคำนวณค่าก๊าซธรรมชาติเหลว( LNG ) นำเข้า จาก 20 เหรียญต่อล้านบีที (ราคาเฉลี่ยเดือน ม.ค.66) ให้สอดคล้องกับราคาตลาดในปัจจุบัน (ต่ำกว่า 13 เหรียญต่อล้านบีทียู)