ทหารประชาธิปไตย

เมื่อแรกเริ่มได้รับข้อมูลเรื่องนี้ประมาณกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เขียนไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่ ด้วยมองว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำสงครามการข่าว และตั้งข้อสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่ข้อมูลชั้นความลับขนาดนั้นจะรั่วออกมาได้ และไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ จึงสันนิษฐานว่าสหรัฐฯน่าจะเป็นผู้ปล่อยข่าวเสียเอง โดยที่ไม่มีข้อมูลอื่นใดประกอบ

ทว่าเมื่อเหตุการณ์ผ่านมาพอควรและได้ข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมสมควรที่จะได้รับการวิเคราะห์เพื่อเป็นองค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการข่าวและสงครามข้อมูลข่าวสาร

ตอนแรกเข้าใจว่า

โดยหลักๆข้อมูลที่รั่วไหลคงเป็นเอกสารเกี่ยวกับการวางแผนทำสงครามของสหรัฐฯในยูเครน นอกจากนี้ก็มีข่าวอื่นเผยแพร่ออกมาด้วยว่าหน่วยสืบราชการลับสหรัฐฯ ได้ทำการดักฟังการสนทนาระหว่างบุคคลระดับผู้นำของเกาหลีใต้ และยูเครน ซึ่งเป็นพันธมิตรสหรัฐฯเคยทำมาแล้ว และได้รับการเปิดเผยจากทั้งอัจซานด์ในวิกีลีกกับข่าวที่นายสโนดอนด์ ออกมาเปิดเผยเรื่องCIAดักฟังโทรศัพท์คนจำนวนมากทั่วโลก

โดยเหตุการณ์ครั้งที่นายสโนดอนออกมาเปิดเผยนั้นทำให้นางแองเกลล่า แมเกิล นายกรัฐมนตรีเยอรมันในขณะนั้นโกรธมาก และทำให้สัมพันธภาพทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศหมางเมินกันไประยะหนึ่ง

อย่างไรก็ตามเมื่อได้พิจารณาเอกสารที่เผยแพร่โดยนิวยอร์คไทม์ก็พบว่าเป็นเพียงการสรุปหัวข้อข่าวสาร(หขส.)ที่ใช้ในการประชุมหน่วยขึ้นตรงของกลาโหมสหรัฐฯไม่ใช่แผนการรบของสหรัฐฯในยูเครนตามที่ได้ข่าวมา

แต่ก็นับว่าเป็นการรั่วครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี โดยมีข้อมูลรวมภาพเกือบร้อยหน้า แต่ก็มิได้สร้างความสั่นสะเทือนในวงกว้างแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นข่าวปล่อยหรือหลุดรั่วออกมาจริงแต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นเอกสารของกระทรวงกลาโหมจริง ก็เป็นการยืนยันได้ชัดเจนว่าสหรัฐฯ คือตัวบงการในสงครามยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย

ทว่าที่น่าสนใจ คือ ข้อมูลเหล่านี้ตามข่าวได้ถูกเก็บรวบรวมนับเป็นไฟล์ได้กว่า 10 อัน โดยมือสมัครเล่นอายุเพียง 21 ปี ที่เป็นนักเล่นเกมส์ออนไลน์ จุดสำคัญคือ ถ้าขนาดมือสมัครเล่นยังสามารถเจาะเข้าข้อมูลชั้นความลับของกลาโหมได้ ก็แสดงถึงความอ่อนแอในระบบการข่าวของสหรัฐฯเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนเมืองไทยแม้มีข่าวการรั่วไหลข้อมูลของประชากร 55 ล้านคนในระบบหมอพร้อม โดยมือสมัครเล่นเป็นจ่าใช้นามว่า 9-NEAR นั้น ถือเป็นเรื่องที่เบากว่า แต่เบื้องหลังคนบงการนี่สิน่าสนใจ ยิ่งถ้าไปขายให้ต่างชาติซึ่งเป็นไปได้สูงก็ยิ่งน่ากลัว

 กลับมาเรื่องเอกสารรั่วจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โดยเราทราบจากข่าวแล้วว่าเป็นหนุ่มมือสมัครเล่นวัย 21 และได้ทำการเผยแพร่ข้อมูลในหมู่เครือข่ายนักเล่นเกมส์ของตน แต่เค้านั้นเป็นลูกจ้างอยู่ในฐานปฏิบัติทางทหารของสหรัฐฯ และมันได้ถูกเผยแพร่ออกไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2023

แต่พึ่งจะมีการควบคุมตัวนาย Jack Teixeira ลูกจ้างหน่วยลาดตะเวนหาข่าวที่ 102 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่รัฐแมสสาจูเซท โดยเขาได้เผยแพร่ข้อมูลในหมู่ FC จำนวน 20-30 คนในสื่อออนไลน์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นนักเล่นเกมส์อยู่ใน Platform ที่เป็นที่นิยมมาก โดยสมาชิกส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวและวัยรุ่นที่มีความสนใจร่วมกันในเรื่องอาวุธ และการก่อความรุนแรงในเกมส์ออนไลน์และอื่นๆจนกระทั่งมีการนำมาเผยแพร่ในinstragram

 ทว่าข้อมูลส่วนใหญ่ด้านการข่าวคือการให้ข้อเสนอแนะ ซึ่งฝ่ายบริหารใช้ประกอบการตัดสินใจ หรือวางนโยบายในช่วงกุมภาพันธ์ แต่พอถึงช่วงมีนาคม ก็มีข้อมูลที่ทำให้ Jack Teixeira ถูกตั้งข้อหาจารกรรมตามก.ม.1917 ถึง 2 ข้อหา คือไม่มีอำนาจในการเก็บข้อมูลของการป้องกันประเทศโทษ 10 ปีในคุกอีก 3 ปี ภายใต้การควบคุม และอีกข้อหาคือกักเก็บเอกสารชั้นความลับมีโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี

เอกสารเหล่านี้ได้ตกไปถึงมือสำนักข่าวใหญ่ๆเกือบทั่วโลก รวมทั้ง BBC,WASHINGTON POST,NEW YORK TIME ซึ่งเป็นแหล่งแรกๆที่รายงานการรั่วไหลนี้ รวมทั้งรายละเอียด

หนึ่งในเอกสารคือการวิเคราะห์แผนการรบของรัสเซียในการตอบโต้รถถังจากนาโต้ที่จะถูกส่งเข้าไปในปีนี้ และการขาดกำลังสนับสนุนของยูเครนในการรุกใหญ่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ จึงจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในการลุก นอกจากอาจยึดพื้นที่คืนได้ เล็กน้อยเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ แต่จะสูญเสียจำนวนมาก เอกสารนี้ระบุวันที่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ก่อนครบ 1 ปี ของสงครามยูเครน และบางส่วนในเดือนมีนาคม

จึงเป็นที่มาของการออกข่าวที่นาโต้จะส่งกำลังอาวุธและกำลังคนไปสนับสนุนยูเครน

นอกจากนี้เอกสารยังระบุถึงการขาดแคลนอาวุธในการป้องกันภัยทางอากาศ และหนึ่งในเอกสารระบุว่าจากการประเมินค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นขีปนาวุธให้ “BUKA” และ “S-300” ถึง 89% คำถามในตอนนี้แล้วระบบอื่นๆของ NATO ไปอยู่ไหน เช่น แพททริออท ชาร์แซม จรวดหลายลำกล้องไฮมาส์

ส่วนเรื่องอื่นๆที่ไม่มีรายละเอียดประกอบ เพียงแต่กล่าวถึงแบบสะเปะสะปะ ก็มีแผนการลอบสังหารปูติน การสนับสนุนให้กองทัพรัสเซียยึดอำนาจ หรือแม้แต่การลอบสังหารเซเลนสกี้ หรือการบุกไปโจมตีเครมลินของกองกำลังยูเครน อันเป็นการโจมตีแบบวินาศกรรมและไม่คาดคิด ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้มีการวิเคราะห์ถึงผลได้ผลเสีย นอกจากทิ้งไว้ให้ผู้บังคับบัญชาหรือนักการเมืองพิจารณา

อนึ่งยังมีเอกสารที่กล่าวถึงการจัดกองกำลังปฏิบัติการพิเศษในยูเครนของนาโต้ ตามเอกสารลงวันที่ 31 มีนาคม ระบุว่าหลายประเทศในนาโต้จะจัดส่งทหารเข้าไปในยูเครน โดยอังกฤษจะส่งไป 50 นาย แลตเวีย 17 ฝรั่งเศส 15 สหรัฐฯ 14 และเนเธอแลนด์ 1 แต่ทั้งหมดจะไม่ถูกส่งไปสนามรบเพียงแต่ให้ประจำที่สถานทูต คาดว่าเพื่อรักษาความปลอดภัยให้นักการทูตของชาติตน

 เกี่ยวกับบทบาทของเลขาธิการ UN เอกสารได้วิพากษ์วิจารณ์บทบาทของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส โดยประกอบกับบางส่วนที่เขาส่งข้อความถึงผู้ใต้บังคับบัญชา โดยวิเคราะห์ว่าเลขาธิการ UN นั้นค่อนข้างอ่อนข้อและเอื้อต่อมอสโคว์ เช่นการส่งธัญพืชออกขายทางทะเลดำ

 นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่น เช่น การค้าน้ำมันระหว่างรัสเซียกับมาลี ซึ่งอยู่ในระหว่างการเจรจา โดยการดำเนินการของกลุ่มบริษัทในเครือ Wagner ทหารรับจ้างของนายเยฟกินี ปริโกซิน

 อนึ่งเอกสารยังระบุว่าอียิปต์ และ UAE ได้มีการเจรจาอย่างลับๆกับรัสเซีย เพื่อขายอาวุธให้ หรือต่อต้านการข่าวของอังกฤษกับสหรัฐฯ ซึ่งทั้ง 2 ประเทศก็ได้ปฏิเสธข่าวนี้ว่ามั่วนิ่ม

ยังมีการกล่าวพาดพิงถึงการที่ทหารรับจ้าง Wagner ติดต่อขอซื้ออาวุธจากทูรเคียเพื่อใช้ในสงครามยูเครนและที่มาลี นอกจากนี้ยังมีการกล่าวพาดพิงว่าเซอร์เบียจะช่วยรัสเซียในสงครามยูเครน ซึ่งเซอร์เบียก็แถลงว่าเป็นข่าวเท็จ

สุดท้ายความเห็นของยูเครนต่อเอกสารนี้ระบุว่าจะเป็นประโยชน์ต่อรัสเซียเท่านั้น ส่วนทางรัสเซียบอกสั้นๆว่าน่าสนใจ อย่างไรก็ตามการรั่วไหลของเอกสารและข้อมูลเหล่านี้ยังไม่ก่อให้เกิดปัญหาอะไรในมุมกว้าง และยังไม่เป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกในหมู่สมาชิกนาโต้

หมายเหตุ : เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปสักพักความจริงก็จะเผยตัวของมันเอง