หุ้นไทยปิดช่วงเช้าวันนี้(19 เม.ย.)ที่ 1,588.17 จุด ลดลง 5.68 จุด (-0.36%) มูลค่าซื้อขายราว 28,557 ล้านบาท การซื้อขายในช่วงเช้า ดัชนีฯ แกว่งไซด์เวย์ ทำระดับต่ำสุด 1,581.55 จุด และระดับสูงสุด 1,595.08 จุด
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันนี้ยังคงแกว่งไซด์เวย์ สอดคล้องตลาดหุ้นเอเชีย เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน หลังจากผลประกอบการไตรมาส 1/66 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ทยอยออกมา นำโดยกลุ่มแบงก์-ไฟแนนซ์ ประเดิมจาก บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO),บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) ก็เป็นไปตามที่ตลาดคาด ไม่มีเซอร์ไพร์สตลาด เช่นเดียวกับต่างประเทศที่ผลประกอบการ บจ.ก็เป็นไปตามคาดการณ์ ทำให้ภาพรวมขาดปัจจัยใหม่
ทั้งนี้มองว่านักลงทุนน่าจะไปรอประเด็นใหญ่ คือ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ประเด็นสำคัญอยู่ที่การส่งสัญญาณว่าจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยและปรับลดดอกเบี้ยลงเมื่อใด หากเฟดส่งสัญญาณชัดเจนก็จะเป็นผลดีต่อตลาด แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดน่าจะยังคงแกว่งในกรอบแคบๆ ต่อไป โดยให้แนวรับ 1,585 จุด และแนวต้าน 1,598 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,737.19 ล้านบาท ปิดที่ 64.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,633.78 ล้านบาท ปิดที่ 29.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
TISCO มูลค่าการซื้อขาย 1,338.46 ล้านบาท ปิดที่ 100.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,161.18 ล้านบาท ปิดที่ 72.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 888.93 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท ลดลง 0.50 บาท