"เชียงใหม่"ขึ้นที่ 1 เมืองฝุ่นพิษโลก พบ 40 จังหวัดเกินค่ามาตรฐาน ขณะที่ดาวเทียมระบุพบจุดความร้อนในประเทศไทย ในพื้นป่าอนุรักษ์มากที่สุด 539 จุด
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.66 จากการรายงานของเว็บไซต์ www.iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองมลพิษโลก โดยรายงานแบบเรียลไทม์ วันที่ 18 เม.ย.2566 เวลา 13.00 น.เชียงใหม่ ติดอันดับที่ 1 ของโลก โดยดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 176 US AQI และกรุงเทพมหานคร (กทม.) อยู่ในอันดับที่ 5 โดยดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 157 US AQI
ส่วนการรายงานจากศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ พบจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 18 เมษายน 2566 รอบเช้า จังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อน จำนวน 83 จุด จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึงปัจจุบัน ทั้งหมดจำนวน 11,858 จุด ยังเกิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ เขตสปก. และพื้นที่ชุมชนและอื่นๆ อำเภอฝางพบจุดความร้อนมากที่สุดจำนวน 25 จุด มี 3 อำเภอพบ 8 จุดเท่ากันอำเภอพร้าว แม่อายและเชียงดาว โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันนี้ 18 เมษายน 2566 พื้นที่พบจุดความร้อนมากที่สุด ป่าอนุรักษ์ จำนวน 6,893 จุด เขตป่าสวนแห่งชาติจำนวน 4,575 จุด เขตสปก. 222 จุด พื้นที่ชุมชน 124 จุด พื้นที่การเกษตร 42 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 2 จุด มีพื้นที่เสียหายกว่าแสนไร่
เช่นเดียวกับการตรวจวัดคุณภาพของกรมควบคุมมลพิษ เว็บไซต์ http://air4thai.com ช่วงเวลา 11.00 น. มีค่า 44-190 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พื้นที่มีค่าฝุ่นมากที่สุด อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 190 ไมครอน รองลงมาที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 143 ไมครอน และ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ PM2.5 มีค่า 134 ไมครอน พื้นที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ มีค่าเท่ากัน 102 ไมครอน ส่วนพื้นที่กลางเมืองเชียงใหม่ ตำบลศรีภูมิ มีค่า 92 ไมครอนและพื้นที่ดอยสุเทพ มีค่า 76 ไมครอน เกินมาตรฐาน
ขณะที่ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) พบค่าฝุ่น PM2.5 ยังคงเกินค่ามาตรฐานกว่า 40 จังหวัด โดยไทยพบจุดความร้อน 1,274 จุด ในขณะที่เพื่อนบ้านอย่างพม่ายังครองแชมป์อันดับหนึ่งอยู่ที่ 4,489 จุด, สปป.ลาว 1,673 จุด, เวียดนาม 319 จุด, กัมพูชา 28 จุด, และมาเลเซีย 17 จุด
ข้อมูลจากดาวเทียมระบุอีกว่า จุดความร้อนในประเทศไทย ยังคงพบในพื้นป่าอนุรักษ์มากที่สุด 539 จุด ตามด้วยป่าสงวนแห่งชาติ 479 จุด, พื้นที่เกษตร 141 จุด, พื้นที่เขต สปก. 69 จุด, พื้นที่ชุมชนอื่นๆ 43 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 3 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด 3 อันดับ คือ #เชียงใหม่ 272 จุด, #เชียงราย 265 จุด และ #แม่ฮ่องสอน 88 จุด