วันที่ 18 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวราบงาน ว่า จากกรณี คดียิงอุกอาจ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4ราย เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ในพื้นที่ สภ.สอง ร้อยเวรในวันเกิดเหตุคือ ร.ต.อ.สมคิด คำเอื้อ เดินทางไปตรวจสอบที่รพ.สอง เมื่อไปถึงพบ น.ส.จีรภรณ์ อายุ 23 ปี ถูกยิงที่บริเวณศีรษะ ด.ช. อภิวิชญ์ อายุ 14 ปี ถูกยิงบริเวณข้างหลัง ถึงแก่ความตายทั้ง 2 คน และพบนายกิตติพร อายุ 25 ปี ถูกยิงที่แขนขวา นางฐิตาภา อายุ45 ปี ถูกยิงบริเวณศีรษะ นายบูรณ์ภพ อายุ 23 ปี ถูกยิงที่บริเวณลำตัวได้รับบาดเจ็บ และพบนายประเวศ อายุ41 ปี ที่ถูกแจ้งว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงในครั้งนี้ ถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่ลำตัวได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทั้ง 4 คน ถูกนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลแพร่
ซึ่งสาเหตุมาจาก นายประเวศ กับพวกได้มีเรื่องทะเลาะกันที่ร้านอาหารบางรักและได้เลิกรากันไป หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 ชั่วโมง นายประเวศกับพวกรวม 4 คนได้เดินทางไปหานายกิตติพร กับเพื่อนชื่อเล่นแมน โดยรถยนต์เก๋งส่วนบุคคล สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า วีออส ทะเบียน 8กอ-8347 กรุงเทพ เพื่อเจรจาตกลงกัน และไปพบกับนายกิตติพร กับพวกที่นั่งดื่มสุรากันกับกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงรวมกลุ่มกันอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนหลายคน ที่บริเวณบนถนนในบ้านหมู่บ้านศรีมูลเรือง หมู่ 7 ตำบลบ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่
โดยนายประเวศ กับพวก ได้ลงมาจากรถ และมีกลุ่มชายเข้ามารุมทำร้ายนายประเวศ กับพวก จนนายประเวศ ได้ตะโกนว่าถูกแทง และได้ใช้อาวุธปืนที่พกไปด้วยยิงเข้าไปในกลุ่มตรงข้ามหลายนัด พร้อมกับขอให้พรรคพวกช่วยนำตัวขึ้นรถไปส่งรักษาตัวที่รพ.สอง และในที่เกิดเหตุยังมีผู้ถูกกระสุนปืนอีกหลายคน มีผู้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว มีผู้ถึงแก่ความตาย 2 คน และได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 คน ต่อมาได้รับแจ้งจากรพ.แพร่ ว่านายประเวศ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแพร่ มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ 4 ราย โดยนางสาวจีรภรณ์ ผู้ตายตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่สภ.สอง จังหวัดแพร่ วันนี้ญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมด กว่า 20 คน ได้ รวมตัวกันที่สภ.สอง เพื่อร้องสื่อเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นและไม่คืบหน้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ จนถึงขณะนี้ กลุ่มผู้ก่อเหตุยังไม่สำนึกและยังไม่มีการขอขมาศพผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด นายมนตรี ไม้จันทร์ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 6 ต.บ้านปทุม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี สามีของ นางสาวฐิตาภา ปัญญาแก้ว พร้อมบุตรชาย 3 คน เดินทางมายื่นหนังสือร้องสื่อกรณี ที่ไม่มีความคืบหน้าคดี นายมนตรีกล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีญาติผู้ก่อเหตุ หรือใครออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือ ออกมาขอขมาศพผู้ตาย ไม่เงียบกริบ และทราบว่าผู้ก่อเหตุ มีทั้งหมด 6 คน เสียชีวิต 1 คน อีก 5 คนที่เหลือเป็นแกงค์เงินกู้ในพื้นที่อำเภอสอง และมือปืนที่ยิงในเหตุการณ์นี้มี 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ดำเนินการใดๆ ตนเห็นว่าคดีไม่คืบหน้า จึงได้เดินทางมาร้องสื่อมวลชนเพื่อของความเป็นธรรมกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะเงียบมาตั้งแต่เกิดเหตุมาจนถึงวันนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อผู้เสียหายแต่อย่างใด ทำไมน้ำตัวผู้ก่อเหตุมาขอขมาภรรยาผม จึงร้องขอความเป็นธรรม นายมนตรีกล่าว
นายกิตติพร อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านหนุน อ.สอง จ.แพร่ ที่อยู่ในเหตุการณ์ และเป็นเจ้าของบ้านที่ก่อเหตุยิง กล่าวว่า หลังจากที่กลับมาจากบ้านแล้วกลุ่มคู่อริก็ตามมากับพวก 6 ตน โดยทั้ง 6 คน เป็นแกงค์เงินกู้ในพื้นที่อำเภอสอง ที่ทราบ เพราะเพื่อนในกลุ่มได้ทำการกู้เงินจากลุ่มนี้จึงจำหน้าได้ และเมื่อเกิดเหตุยิง ตนได้วิ่งเอาตัวรอด และโดยยิ่งเข้าที่แขนซ้าย ซึ่งแขนตนก็พิการอยู่แล้ว โดยยิงซ้ำเข้าไปอีก โชคดีที่รอดชีวิตมาได้ และยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุ มี 6 คน เสียชีวิต 1คน หลบหนีไป 5 คน และ มือปืนที่ก่อเหตุ มี 2 คน ไม่ใช่เพียงแค่ นายประเวศผู้ตายเท่านั้น
ขณะที่ พ.ต.อ. บำรุง น้อมเศียร ผู้กำกับการ สภ.สอง กล่าวว่า ได้รับเรื่อง จากการร้องเรียนญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมดไว้แล้ว ตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการการทำงานระดับจังหวัดขึ้นเพื่อให้เข้ามาช่วยในคดีที่เกิดขึ้น สภ.สอง ได้ร่วมทำงานบูรณาการกับคณะทำงานในการสืบสวนสอบสวน และ ดำเนินการจับกุมผู้ก่อเหตุ และผู้กระทำผิด เพื่อสอบปากคำ แต่คดีอยู่ระหว่างดำเนินการ ญาติของผู้เสียหาย อาจจะเกิดความเข้าใจผิด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเมืองการสืบสวน จบกระบวนการ จับกุมผู้ก่อเหตุ ต้องมีการแจ้งญาติผู้เสียหายอย่างแน่นอน

