วันที่ 16 เม.ย.66 เวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ภราศรี สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งมีเหตุรถจยย.ล้มลงไปในคลอง ที่บริเวณคลองระบายน้ำติดถนนรอบเมือง หน้าโรงเรียนบ้านหนองตุ ต.หมากแข้ง อ.เมือง อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานีทันที เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถจยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน 1กร 3861 อุดรธานี ชนกับเครื่องโม่ผสมปุ๋ยสีส้มขนาดใหญ่ที่ตั้งไว้หน้าร้านเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ประเภทจำหน่ายเครื่องอัดเม็ดปุ๋ย เครื่องผสมปุ๋ย โดยเครื่องโม่ถูกชนจยย.ชนตกลงไปในคลองส่งน้ำด้วย
เมื่อเจ้าหน้าที่ฯ มองไปในคลองน้ำก็ต้องตกใจพบร่างของเจ้าของรถจยย.ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือนายนราวุฒิ อายุ 18 ปี บ้านอยู่ ม.8 ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี และเรียนอยู่ชั้นปวช.ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่งในจ.อุดรธานี นอนคว่ำหน้าในคลองข้างทาง ตอนแรกกู้ภัยคาดว่าจะเสียชีวิต แต่ด้วยน้ำในคลองมีไม่มาก เมื่อเจ้าหน้าที่ฯ ลงไปดูปรากฏว่ายังมีชีวิต ยังพูดจาโต้ตอบได้ จึงช่วยกันดึงขึ้นมาจากคลอง โดยสภาพใบหน้าบวมเป่ง ตาเปิดและเขียวช้ำ มีเลือดออกจากปาก และหนุ่มรายนี้ยังบอกว่า บ้านอยู่สามพร้าว กลับมาจากเล่นน้ำสงกรานต์ซอยโลกีย์ จะกลับบ้าน แต่ขับมาคนเดียวชนกับเครื่องโม่ผสมปุ๋ยนอนสลบตั้งแต่เมื่อคืน จากนั้นหนุ่มรายนี้กุลีกุจอจะลุกขึ้นบอกว่า ปวดท้อง เจ้าหน้าที่ฯ ได้นำแปลมาหามใส่จากนั้นนำขึ้นรถกู้ภัยรีบนำส่งรพ.ศูนย์อุดรธานีเพื่อให้การช่วยเหลือทันที่
ด้าน นายประจักษ์ วงษ์รอด 53 ปี หัวหน้ากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งจึงได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจยย.ชนกับเครื่องโม่ผสมปู๋ย รถจยย.พังยับและเครื่องโม่ถูกชนก็ลงไปในคลองด้วย ดีที่น้ำในคลองไม่มากมีหญ้าและเลน เจ้าหน้าที่ฯ พบผู้บาดเจ็บ นอนคว่ำหน้า จึงได้นำตัวขึ้นมาริมถนน ทำการตรวจสอบพบว่ายังมีลมหายใจ สอบถามยังสามารถให้ข้อมูลได้ ส่วนสาเหตุคาดว่าจะกลับจากการเล่นน้ำสงกรานต์ช่วงดึกวานนี้ซึ่งเป็นคืนสุดท้าย คาดว่าผู้บาดเจ็บซิ่งรถจยย.จะกลับบ้าน อาจจะมาด้วยความเร็วทำให้ชนเครื่องโม่ผสมปุ๋ยอยู่ริมถนนอย่างแรง นอนสลบตั้งแต่เมื่อคืน จนมาเมื่อเช้ามีชาวบ้านผ่านมาพบ เห็นนอนสลบอยู่นึกว่าเสียชีวิตไปแล้ว ถือว่าหนุ่มรายนี้ดวงแข็งรอดตายมาได้อย่างเหลือเชื่อ
ส่วนบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ของชาวจ.อุดรธานี ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะรอบๆ สวนสาธารณะหนองประจักษ์และซอยโลกีย์มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเล่นน้ำสงกรานต์จำนวนมาก บนถนนหนาแน่นไปด้วยผู้คนและรถยนต์ที่ไหลเข้าถนนเล่นน้ำสงกรานต์ ทุกคนสนุกสนาน ยาวไปเกือบถึงหกทุ่มอย่างสนุกสุดมันส์หลังจากพากันอั้นเล่นน้ำสงกรานต์มานานหลายปี