เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 เม.ย.66 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. และพล.ต.ต.ณัฐกรประภายนต์ ผบก.สอท.2 ได้เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจค้นห้องพัก จ.ส.ท.เขมรัตน์ ซึ่งทางพล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า จากคำให้การผู้ต้องหายังคงอ้างว่าได้ซื้อข้อมูลมาจากดาร์กเว็บโดยไม่ได้นำข้อมูลไปขายต่อ ส่วนแรงจูงใจการก่อเหตุมี 3 เจตนาคือ เจตนาแรกต้องการประกาศขายข้อมูลส่วนตัว แต่พอเรื่องไม่โด่งดัง ก็เข้าสู่เจตนาที่สองคือ โพสต์ว่านำไปเผยแพร่ต่อในลักษณะข่มขู่ กระทั่งทราบว่าตัวเองจะถูกตามจับกุม สุดท้ายจึงเบี่ยงประเด็นไปเชื่อมโยงเรื่องทางการเมือง แต่โดยรวมที่ก่อเหตุไป ผู้ต้องหาต้องการจะลองภูมิ เพราะคิดว่าตัวเองเชี่ยวชาญ ตำรวจคงตามจับกุมไม่ได้ 

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวต่อว่า หลักฐานที่ตรวจพบตรงตามแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ จึงเพียงพอจะขออนุมัติศาลออกหมายจับได้  ทั้งนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ทรายว่าเลขไอพีคอมพิวเตอร์ ตรงกันกับห้องที่ผู้ก่อเหตุใช้ โดยไม่พบว่าผู้ต้องหาได้ใช้สถานที่อื่นเพิ่มเติม ซึ่งจากการสอบปากคำผู้ต้องหาก็รับว่าได้ใช้ห้องที่ไปตรวจค้นในการกระทำความผิด ส่วนสาเหตุที่การจับกุมของเจ้าหน้าที่ล่าช้านั้น เพราะคนร้ายได้ทิ้งอุปกรณ์ติดตามตัวทุกสิ่งอย่างไปคนเดียวจนถึง จ.เชียงราย และมีแวะหาเพื่อนระหว่างทาง 

นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินคนร้ายยังพบความเชื่อมโยงไปถึงภรรยาตัวเอง ที่ไปกดเงินสดมา 400 บาทเพื่อสมัครบริการส่งข้อความ sms ซึ่งตัวภรรยาเองก็อ้างว่า มีหน้าที่ดูแลคนไข้เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องระบบ

พล.ต.ต.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการตรวจค้นที่พักผู้ต้องหา พบฮาร์ดดิสต์ 7-8 ตัว รีโมตควบคุมทางไกล โน้ตบุ๊ก อุปกรณ์ซ่อมคอมพิวเตอร์จำนวนมาก รวมถึงเราเตอร์อินเตอร์เน็ตและพ็อคเก็ตไวไฟ 3 ค่าย ถือว่าเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจทางดิจิตัลเพื่อสืบหาผู้กระทำผิดเพิ่มเติม