หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2566 ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ สืบสานประเพณีไทย …*…
เริ่มแต่ วันพรุ่งนี้ ถึง วันอาทิตย์ที่ 16 นี้ เป็นวันหยุดยาว ของ ปวงชนชาวไทยทั่วหล้า เนื่องในโอกาส เทศกาลมหาสงกรานต์ ที่นี่ บารอน ขออวยพรให้ คนอ่านสยามรัฐทุกท่าน ก้าวผ่านปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ไทย มีความสุขสนุกสนาน นึกปรารถนาสิ่งใดขอให้สมหวัง เดินทางไปกลับภูมิลำเนา ขอให้สะดวกปลอดภัย…*…
นางสงกรานต์ 2566 มีพระนามว่า กิมิทาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจงกลณี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จนั่งมาเหนือมหิงสา (ควาย) โหรหลวงทำนายว่า เกณฑ์นาคราชให้น้ำ 2 ตัว ทำให้ ฝนกลางปีอุดมสมบูรณ์ เกณฑ์ธัญญาหาร ธัญญาหาร พลาหาร มัจฉมังฉาหาร จะบริบูรณ์ อุดมสมบูรณ์ และ เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีปัถวี (ดิน) ทำให้ น้ำงามพอดี ผลผลิตเกษตรกรดีมีรายได้ดี ประชาชนผู้ใช้แรงงานรายได้ดี…*…
ประสา บารอน อ่านคำทำนาย ประชาชนผู้ใช้แรงงานรายได้ดี เริ่มมีเค้าความจริงให้เห็น ทุกพรรคการการเมืองต่างชูประเด็น แข่งขันกันลดแหลกแจกแถมกันกระจาย โดยเฉพาะ อภิมหานโยบายประชานิยมตัวพ่อ ของ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกฯคนที่สองของพรรคเพื่อไทย แจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท ให้คนไทย มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปทุกคน แบบถ้วนหน้า ไม่เว้นคนจนคนรวย ที่รวมๆแล้ว มีประมาณ 55 ล้านคน เท่ากับ ห้าแสนห้าหมื่นล้านบาท แค่ ต้องกลับไปใช้ในภูมิลำเนาตามบัตรประชาชน ในระยะรัศมีการใช้ 4 กิโลเมตร และ ต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน โอ แม่เจ้า เอาสมองส่วนไหนมาคิด…*…
นายเกียรติ สิทธิอมร ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ อัดได้ตรงเป้า ว่า เชื่อว่านโยบายนี้มีวาระแอบแฝง และ มีผลประโยชน์ทับซ้อน ที่นี่ บารอน เห็นด้วยครับ ค่าเงินดิจิทัลอยู่ในช่วงขาลง หลายสกุลดิจิทัลตกต่ำ คนเก็งกำไรเก็บเงินดิจิทัล และ คนเคยขายคอนโดด้วยเงินดิจิทัล ทำให้ ต้องถือเงินดิจิทัลไว้ในมือ ภาษาเซียนหุ้นเรียกว่า ติดดอย รอคอยเวลาปล่อย เงินห้าแสนห้าหมื่นล้านบาทเทลงไปตลาดเงินดิจิทัล สกุลใด เงินดิจิทัลสกุลนั้นราคาพุ่งทะลุเพดานดอยแน่นอน…*…
ถามว่า จะใช้เงินดิจิทัลสกุลใด คำตอบที่ได้ แล้วจะบอกในเวลาต่อไป อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ จะมีการไล่ซื้อเงินดิจิทัลสกุลที่จะซื้อเก็บไว้ อีกต่างหาก นอกจากจะได้ปล่อยเงินดิจิทัลที่ขาดทุนออกไป ในราคาสูงทะลุดอย ยังได้กำไรจากการซื้อเงินดิจิทัลใหม่อีกต่างหาก ภาษาหมากฮอสเรียกว่า กินสองต่อเข้าฮอสเลย…*…
เสียสองต่อ ทำให้ แพ้บนกระดานหมากฮอส คือ งบประมาณประเทศไทย ต่อแรก เสียเงินซื้อสกุลเงินดิจิทัลห้าแสนห้าหมื่นล้านบาท แล้ว ตอนซื้อดิจิทัลกลับจากร้านค้า ที่บอกว่า ให้ไปเปลี่ยนเงินดิจิทัลเป็นเงินบาทกับแบงก์รัฐ ก็ต้อง ใช้เงินอีกห้าแสนห้าหมื่นล้านบาทเท่ากัน ล้งจ่งใช้เงินงบประมาณ ไปกลับหนึ่งล้านหนึ่งแสนล้านบาท งบประมาณตูดขาด ต้องไปกู้เพิ่ม ทำให้ หนี้สาธารณะเพิ่ม แถม ยังเงินเฟ้ออีกต่างหาก และที่สำคัญ ราคาตลาดเงินดิจิทัลสกุลรัฐถือไว้ ถึงตอนนั้น ราคาร่วงต่ำ คืนกลับสู่ราคาเดิม รัฐบาลไทยติดดอยแทน…*…
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์พรรคเสรีรวมไทย อดีต กกต. ให้ความเห็นไว้ว่า การแจกเงินดิจิทัล จะเข้าข่ายความผิด พรป.เลือกตั้ง ม.73 (1) ที่ระบุว่า ห้ามสัญญาว่าจะให้ กำหนด โทษจำคุก 1 ถึง 10 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี หรือไม่? ในขณะที่ นายแสวง บุญมี เลขาฯ กกต. ใจเร็วด่วนได้ ออกมาบอกว่า เป็นการใช้งบประมาณของแผ่นดินสามารถทำได้ เมื่อมีตัวอย่างในอดีต ผู้สมัคร ส.ว.ชื่อดังท่านหนึ่ง ใจถึงหาเสียง เลือกผมเป็น ส.ว.จะไม่ขอรับเงินเดือน กกต.ในสมัยนั้นถึงกับ ตัดสิทธิเลือกตั้ง เข้าข่าย สัญญาว่าจะให้ เงินเดือน ส.ว.ก็เงินงบประมาณแผ่นดินเช่นกัน ข้อสำคัญ ความเห็น กกต.ไม่ใช่คำตัดสิน ต้องส่งให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดครับ…*…
บารอน มีข้อสังเกต ผลโพล ของ นิด้าโพล เหมือนเป็นสูตรสำเร็จ เลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี ทุกที่ทุกจังหวัดที่ผ่านมา ที่หนึ่งแพทองธาร ชินวัตร ตามมาด้วย ที่สองพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ ที่สามลุงตู่ เลยขอทำนายล่วงหน้า เผื่อว่าไปทำโพลจังหวัดบุรีรัมย์ ผลโพลออกมาคงอีหร็อบเดิม หนึ่งแพทองธาร สองพิธา สามลุงตู่ จะคอยดู เอาเสี่ยหนูภูมิใจไทยอยู่อันดับที่เท่าไหร่ ฮา ขำขำ ...*...
ผ่านหูผ่านตา บารอน แวบแว๊บ เมื่อเช้าวันวาน รายการทีวี ที่ “หมาแก่” ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ เป็นผู้จัดรายการ สัมภาษณ์ ธนกร วังบุญคงชนะ พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่สามารถตอบนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของ พรรครวมไทยสร้างชาติได้กระจ่างชัด ได้แต่อึกๆอักๆ อ้อมแอ้มตอบ เหมือนไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนออกทีวี ทั้งๆที่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ เพิ่มให้เป็นเดือนละหนึ่งพันบาท เท่ากับ ปีละหนึ่งหมื่นสองพันบาท สามารถซื้ออะไรก็ได้ ใช้อะไรก็ได้ ยกเลิกข้อจำกัดค่ารถเมล์ 450 บาท จูงใจประชาชนมากที่สุด
ที่มา :บารอน (12/4/66)