"Yo และนี้คือเสียงจากเด็กวัด
แข็งแรงเหมือนกับมึงเอาเหล็กงัด
พูดเบาเบาแต่ไกลไปเจ็ดวัด
มึงตั้งใจฟังนะ

กว่าจะนิ่งมึงก็ต้องกลิ้งมาก่อน
ได้เวลาซิ่งมึงก็ต้องวิ่งมาบอก
ก่อนจะวิ้น ก็คงต้องปลิ้นมาก่อน
ถ้ามึงยังไม่สิ้นมึงก็คงต้องดิ้นไปก่อน

และนี้คือ Thatthong Sound ของแท้
พวกกูนั่งมองดาว
ถึงไม่มีเครื่องเพชรแวววาว
แต่กูทำให้ Thatthong proud

กูไม่มีวันลืมว่ากูมาจากไหน
และกูต้องพยายามขนาดไหน
ถ้าเป็นกูคนเดียวกูคงมิอาจไหว
แต่นี้คือ Thatthong team mafacker

เพื่อนเพื่อน หล่ะกูรถแรงสัส
แม่งซิ่งกันจัดแต่ผมไม่ขับนะคุณแม่ผมไม่ให้ขับ อ๊ะอ๊ะ
และเพื่อนสาวผมนี้ก็ปากแดงจัด
โปรงสั้นกันจัด โปรงสั้นกันจัด สวยจังนะอีสัส

เกิดบนดินไม่ใช่ดาว
แต่ตอนเนี้ยเหมือนกูอยู่บนดาวไม่ใช่ดิน ah
ทุบแผ่นดินให้เป็นซาวด์
พวกกู make it loud ไปให้มึงได้ยิน ah

และเนี้ยคือเสียงจากเด็กวัด
เสียงนี้บ่งบอกตัวตนที่เด่นชัด
ก็แค่เด็กธรรมดาพวกกูก็ไม่ได้เก่งนะ
แต่เรื่องยอมแพ้อ่ะไอสัสพวกกูไม่ค่อยจะเก่งนักหว่ะ"

ข้างต้นนี้เป็นเนื้องเพลงหนึ่งในท่อนเพลงสุดฮิตอย่าง “ธาตุทองซาวด์” ซึ่งกล่าวถึงการเป็นเด็กวัด “วัดธาตุทอง” ของแรปเปอร์มีชื่ออย่าง “YOUNGOHM” ที่มียอดวิวมากกว่า 50 ล้านแล้ว

สำหรับประวัติของ  “วัดธาตุทอง” ได้ถูกตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2481วัดแห่งนี้เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2483 วัดแห่งนี้มีประวัติมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย เพราะเป็นพื้นที่ตั้งของ 2 วัด คือ วัดหน้าพระธาตุ และวัดทองล่างนั่นเอง

เดิมทีวัดหน้าพระธาตุนั้นสร้างขึ้นในสมัยอโยธยา ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่มาของชื่อวัดมาจากการที่บริเวณกลางวัดมีพระพุทธเจดีย์องค์ใหญ่ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ ส่วนวัดทองล่างนั้นเดิมทีเป็นสวนผลไม้ที่มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่อยู่กลางสวน เจ้าของเห็นว่าต้นโพธิ์นั้นเป็นต้นไม้ในวัด ไม่สมควรปลูกไว้ในบ้าน แต่ถ้าจะให้โค่นทิ้งก็กลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อตัวเองและคนในครอบครัว จึงลงความเห็นกันว่าจะบริจาคพื้นที่ตรงส่วนนั้นสร้างเป็นวัดขนาดเล็ก และตั้งชื่อว่าวัดโพธิ์สุวรรณาราม หรือวัดโพธิ์ทอง ซึ่งต่อมาชาวบ้านแถวนั้นก็เรียกติดปากกันว่าวัดทอง แต่เพราะตามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีวัดทองอยู่หลายวัด ทั้งด้านบนและด้านล่างของแม่น้ำ ชาวบ้านจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดทองล่าง

ในปี พ.ศ. 2480 รัฐบาลในสมัยนั้นได้มีการขอเวนคืนพื้นที่วัดหน้าพระธาตุและวัดทองล่าง เพราะต้องการสร้างท่าเรือกรุงเทพฯ โดยรัฐบาลได้ชดเชยเงินให้ทั้ง 2 วัด เพื่อไปรวมกับวัดอื่นหรือสร้างวัดใหม่ขึ้นมา ทำให้คณะสงฆ์มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้น และมีความเห็นพ้องต้องกันในการซื้อที่ดินปัจจุบัน และย้ายเสนาสนะถาวรวัตถุของทั้ง 2 วัดมาปลูกสร้างรวมกันที่ ต.คลองบ้านกล้วย โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เจ้าคณะใหญ่ธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารเป็นองค์อุปถัมภ์ และตั้งชื่อว่า “วัดธาตุทอง” ที่มาจากชื่อของทั้ง 2 วัดรวมเข้าด้วยกัน เมื่อปี พ.ศ.2481

ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณารับวัดธาตุทองไว้ในพระอุปถัมภ์ และประทานตราสัญลักษณ์ใหม่ให้แก่วัด จากนั้นในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกให้วัดธาตุทองเป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ มาจนถึงปัจจุบัน