นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง ดิไอคอน กรุ๊ป ผู้จัดจำหน่ายสินค้ากลุ่ม อาหารเสริม ,Personal Care และ Skin Care ภายใต้แบรนด์ BOOM เปิดเผยว่า แนวโน้มการใช้จ่ายในการซื้อของผู้บริโภคในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมานั้น ยังไม่สู้ดีนัก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก การเปิดประเทศ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายกับการท่องเที่ยวมากขึ้น อีกทั้ง การแข่งขันของตลาดโดยเฉพาะกลุ่มอาหารเสริม และ ของใช้ส่วนบุคคลหรือ ( Personal care ) มีการแข่งขันทั้งแบรนด์ในไทย และ แบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์
ซึ่งจากการศึกษาพบว่า คนไทยมีอัตราจดจ่อรับสารสั้นลงจาก 3 นาทีต่อการเห็นโฆษณา 1 ครั้ง เหลือ เพียง 5 วินาทีต่อการเห็นโฆษณา 1 ครั้งเท่านั้น และ ช่องทาง TIKTOK ยังคงเป็นช่องทางที่มีการเติบโตสูงมากกว่า Facebook และ IG เป็นต้น

ทั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทได้วางแนวทางการทำตลาดใหม่ผ่านการผลักดันกลุ่ม สกินแคร์ ( Skin care ) เข้ามาทำตลาดมากขึ้น ผ่านการใช้แบรนด์ ไอคอน เฟซ ไอเซรั่ม ( ICON FACE iSERUM ) เป็นตัวผลักดันตลาด เบื้องต้น คาดการณ์งบประมาณการทำตลาดในปีแรกไว้ที่ 150 ล้านบาท และ วางเป้าหมายยอดขายปีแรกในกลุ่มผลิตภัณท์ดังกล่าวไว้ที่ 400 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 10% จากเป้าหมายรวม ทั้ง 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ อาหารเสริม ,Personal Care และ Skin Care ของบริษัทในปีนี้ที่คาดว่าจะมียอดขายรวมอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท

" ไอคอน เฟซ ไอเซรั่ม ( iCON FACE iSER ) จะเป็นสินค้าเรือธงของบริษัทในกลุ่ม สกินแคร์ ครั้งแรก ผ่านการจับกลุ่มเป้าหมายอายุ 30 ปีขึ้นไปที่เริ่มมีปัญหาเรื่อง ริ้วรอย และ จุดด่างดำ ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ตลาด สกินแคร์ เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะในเซกเม้นต์กลุ่ม เซรั่ม ซึ่งมีจำนวนประชากรอายุ 30 ปีขึ้นไปที่ใช้กลุ่มดังกล่าวสัดส่วนสูงถึง 90% "

นายวรัตน์พล กล่าวว่า นอกจากนี้เรามีการลงทุนซื้อที่ดินจำนวน 63 ไร่ย่านมีนบุรี-หทัยราษฎร์ เพิ่มเติม เพื่อสร้างศูนย์แห่งการเรียนรู้ในเรื่องของการขายออนไลน์แบบ Mix Used ที่ครบวงจรขึ้น มีสตูดิโอสำหรับขายของออนไลน์ มีศูนย์ประชุม ร้านอาหาร เพื่อสร้างนักขายออนไลน์มืออาชีพ รองรับได้ 1 หมื่นคนต่อวัน ตั้งเป้าแล้วเสร็จภายใน 4 ปี ใช้งบประมาณ 3 พันล้านบาทในการก่อสร้าง โดยเฟสแรกคาดว่าจะพร้อมใช้งานภายใน 3 ปี ล่าสุดเตรียมเพิ่มเฟรนไซน์ร้านกาแฟ Boom Cafe ซึ่งจะเป็นร้านกาแฟแห่งแรกที่อยู่ในศูนย์การเรียนรู้ดังกล่าว ก่อนจะเตรียมมาใช้ในรูปแบบ สแตนอโลน ขนาดพื้นที่ 12 - 20 ตร.ม