นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้ที่ได้รับสิทธิจะใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 โดยจะได้รับวงเงิน ดังนี้

ทุกวันที่ 1 ของเดือน (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อเดือน 

- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อ 3 เดือน 

- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 

วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 (มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า/ค่าน้ำประปา)

- ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน 

- ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (กรณีใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท)

ผู้มีสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิตามมาตรการฯลงทะเบียนกับผู้ให้บริการไฟฟ้าได้ 1 แห่ง และผู้ให้บริการน้ำประปาได้ 1 แห่ง (การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค) 

ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งสามารถใช้สิทธิได้ (ใบแจ้งหนี้) ในเดือนถัดจากเดือนที่ลงทะเบียนกับหน่วยงานดังกล่าว โดยผู้มีสิทธิที่มีค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา ตามเงื่อนไขของการให้สิทธิสวัสดิการ ไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา โดยกระทรวงการคลังจะดำเนินการจ่ายเงินคืนให้แก่หน่วยงานที่ให้บริการโดยตรง

ทุกวันที่ 20 ของเดือน (เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน) 

ผู้มีสิทธิเป็นผู้พิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน จะต้องทำการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรก่อน  จึงจะได้รับสิทธิ โดยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก

สำหรับผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐรายเดิมที่ได้รับสิทธิในการชดเชยค่าไฟฟ้าและ/หรือค่าน้ำประปา กรมบัญชีกลางจะทำการโอนเงิน e-Money เข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครั้งสุดท้ายในวันที่ 18 เมษายน 2566

สำหรับเดือนมีนาคม 2566 กรมบัญชีกลางขอรายงานผลการจ่ายเงินให้แก่หน่วยงาน/ร้านค้าที่รับชำระเงินด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ตั้งแต่วันที่ 1- 31 มีนาคม 2566 ดังนี้

1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน (ล้านบาท) 

1.1 วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค  3,460.19 

1.2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 17.81 

1.3 วงเงินค่าโดยสารรถเมล์และรถไฟฟ้า 23.81 

1.4 วงเงินค่าโดยสารรถบริษัทขนส่ง จำกัด  8.08 

1.5 วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 18.92 

รวมจำนวนเงิน (1) 3,528.82 

2. สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (e-Money) จำนวนเงิน (ล้านบาท)

2.1 มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า  229.32 

2.2 มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา17.29 

2.3 มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563  216.02 

รวมจำนวนเงิน (2) 462.63 

รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น (1) + (2) 3,991.44 

ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว