สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดปรากฏการณ์พายุน้ำแข็งพัดกระหน่ำพื้นที่ภาคตะวันออกของแคนาดา เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และส่งผลกระทบต่อเนื่องมาถึงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยทำให้ประชาชนราว 1 ล้านคน ต้องอยู่ในสภาพไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากน้ำแข็งเกาะสะสมตามกิ่งไม้จนหักลงมาทับสายไฟฟ้า จนทำให้ระบบการส่งกระแสไฟฟ้าเกิดการขัดข้อง จนทางการแคนาดาต้องประกาศคำเตือนด้านสภาพอากาศ ก่อนที่จะยกเลิกคำเตือนในเวลาต่อมา

โดยนายปิแอร์ ฟิตซ์กีบง รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานของแคนาดา เปิดเผยว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากพายุน้ำแข็งพัดกระหน่ำในครั้งนี้ ได้แก่ รัฐควิเบิก และรัฐออนแทรีโอ ซึ่งทั้ง 2 รัฐ มีประชากรอาศัยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 และ 2 ของประเทศ

พร้อมกันนี้ ทางการแคนาดา ยังได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าใกล้สายส่งไฟฟ้าที่ชำรุด รวมถึงการเดินป่า เนื่องจากอาจถูกกิ่งไม้ที่น้ำแข็งเกาะสะสม หักลงมาทับ

ทางด้าน นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ได้ออกมาให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยพายุน้ำแข็งข้างต้น โดยระบุว่า ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของประชาชน

ทั้งนี้ ชาวแคนาดารายหนึ่ง เปิดเผยว่า พายุน้ำแข็งที่พัดกระหน่ำในครั้งนี้ ถือว่ามีความรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี