วันที่ 7 เม.ย.66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์  ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังจากที่ไปยื่นศาลแพ่งเพื่อขอเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณีที่ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวพรรคภูมิใจไทย ร้องขอห้ามนายชูวิทย์พูดถึงนโยบายกัญชาเสรี ในช่วงระหว่างการหาเสียง

นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนได้ศึกษาคำสั่งของศาล เบื้องต้นแล้ว พบว่าไม่สามารถให้พูดถึงพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับนโยบายกัญชาได้ แต่ตนยังยืนยันที่จะพูดถึงเรื่องกัญชา ในเรื่องของโทษของกัญชาที่มีผลต่อประชาชน แต่ตนเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่สามารถรับรู้ได้ว่า กัญชา เป็นของพรรคการเมืองใดที่นำเข้ามา โดยวันนี้ตนนำพยานหลักฐานทั้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลร้ายกัญชา และกลุ่มภาคเอกชนที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายกัญชาเสรีมายื่นต่อศาล เพื่อให้ศาลพิจารณาได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้หากศาลยกคำร้องขอเพิกถอน ตนจะยื่นอุทธรณ์ตามขั้รตอนกฎหมายต่อไป 

ตนยืนยันเป็นการต่อสู้นั้น เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายทุกอย่าง และตนเคารพและไม่คิดท้าทายคำสั่งศาลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามระหว่างนี้จะมีการเดินสายรณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรีอย่างต่อเนื่อง เพราะเรื่องกัญชา เป็นนโยบายสาธารณะ และหากจำเป็นจะต้องพูดถึงพรรคการเมือง ตนต้องก็จะพูด เพราะเป็นพรรคที่นำนโยบายนี้เข้ามาในสังคม 

นายชูวิทย์ กล่างเพิ่มเติมว่า ตนและนายอนุทิน รู้จักกันมากว่า 10 ปี รวมถึงลูกของตนและลูกของนายอนุทิน ยังมีความสนิทสนมกันเพราะเรียนที่ต่างประเทศมาด้วยกัน และที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยออกมาโจมตีนายอนุทิน เพียงแต่ตอนนี้ตนออกมาพูดเรื่องกัญชาเท่านั้น สำหรับที่ตนเดินสายออกปราศรัยทุกวันนี้ ก็ไม่ใช่ต้องการคะแนนเสียงอะไร แต่เพื่อจะนำเสนอนโยบายที่พรรคจะนำมาบังคับใช้กับประชาชน ในเมื่อทางพรรคมองว่าประชาชนอย่างตนออกมาพูดแล้วเขากลับบอกว่าโจมตี และจะให้ประชาชนเห็นด้วยทุกอย่างเลยหรือ