นายโรแวน ชง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ เบสท์ (BEST Inc.) บริษัทแม่ของ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ประเทศไทย ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นคนสำคัญในตลาดธุรกิจโลจิสติกส์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความต้องการในการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและการจัดส่งสินค้าผ่านบริษัทขนส่งพัสดุด่วนเพิ่มขึ้นสูงมาก เบสท์มีความมุ่งมั่นที่จะเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะผู้เล่นรายใหญ่ สร้างกลยุทธ์และการพัฒนารอบด้านเพื่อช่วยให้แบรนด์ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ธุรกิจขนส่งพัสดุด่วน สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วในตลาดที่มีศักยภาพแห่งนี้
โดยในปี 2565 เบสท์ ได้เพิ่มการลงทุนภายในเครือข่ายทั้งด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างการขนส่งพื้นฐาน เพื่อปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการให้บริการ รวมถึงยกระดับประสบการณ์การให้บริการลูกค้าทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยนโยบายด้านนวัตกรรมที่แข็งแกร่งรวมถึงความพยายามของบุคลากรจึงทำให้ เบสท์ เอ็กซ์เพรส สามารถประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในประเทศไทยและเวียดนาม
โดยปีที่ผ่านมา เบสท์ เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย ได้ขยายธุรกิจรวมถึงพัฒนาบริการต่างๆ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการ รับ-ส่งพัสดุด่วนมากกว่า 1,200 สาขา รวมถึงมีศูนย์กระจายพัสดุ HUB และศูนย์คัดแยกพัสดุ DC รวมกันกว่า 10 แห่ง ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วไทย แสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศด้านการดำเนินงานและการปฏิบัติการของการบริหารจัดการจัดส่งพัสดุด่วนและการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เบสท์ เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย ยังได้รับมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 (ไอเอสโอ 9001 เวอร์ชัน 2015) Quality Management System (QMS) จาก LRQA องค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจประเมินระบบคุณภาพชั้นนำของโลก รวมถึงรางวัลอื่นๆอีกมากมาย อาทิ รางวัลด้านนวัตกรรมการบริการยอดเยี่ยม และรางวัลแฟรนไชส์ต่างประเทศยอดเยี่ยมแห่งปี เป็นต้น
ขณะที่ในปีเดียวกันนี้ เบสท์ เอ็กซ์เพรส ประเทศเวียดนาม เครือข่ายเบสท์ ประเทศไทย อยู่ภายใต้การดูแลของ เบสท์ (BEST Inc.) บริษัทแม่ ก็ได้มีการพัฒนาทั้งการให้บริการและเพิ่มขีดความสามารถสูงสุดขององค์กร โดยมีการย้ายสำนักงานของ เบสท์ ประเทศเวียดนาม เพื่อรองรับบุคลากรที่เพิ่มขึ้น เพิ่มศูนย์คัดแยกพัสดุมากกว่า 42 แห่งครอบคลุมทั่วเวียดนาม และเพิ่มศักยภาพรถขนส่งพัสดุด่วนจำนวน 200 คัน รวมถึงอัพเดทฟีเจอร์การบริการใหม่ๆอีกมากมาย เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้หลังจากที่เบสท์เข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดโลจิสติกส์ประเทศไทยและเวียดนามเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่าน เบสท์ได้กลายเป็นผู้ให้บริการขนส่งพัสดุด่วนรายหลักของอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มรายใหญ่ของแต่ละประเทศ ตัวอย่างพาร์ทเนอร์ของเบสท์ เอ็กซ์เพรสในประเทศไทย อาทิ Page 365, V-Rich, CF Manager, Midea และ Bata และยังรวมถึงเป็นพาร์ทเนอร์กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ต่างๆในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
สำหรับ เบสท์ เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย บริษัทมีแผนการพัฒนาและการปรับโครงสร้างเชิงกลยุทธ์ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยบูรณาการรวม 4 ธุรกิจหลักเข้าด้วยกันได้แก่ 1.BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส บริการขนส่งพัสดุด่วนในประเทศ) 2.BEST Supply Chain (เบสท์ ซัพพลายเชน บริการการบริหารจัดการคลังสินค้า) 3.BEST Software (เบสท์ ซอร์ฟแวร์ บริการโซลูชันดิจิทัลแบบครบวงจร) ผู้ช่วยการขายออนไลน์ยุคใหม่ผ่าน ezOrder และ ezShop 4. BEST Cross border (เบสท์ คลอสบอเดอร์ บริการส่งพัสดุระหว่างประเทศ) ที่จะเปิดให้บริการ BEST Fast Cargo สำหรับบริการขนส่งพัสดุขนาดใหญ่ข้ามประเทศ
"ในปี 2566 เบสท์ เอ็กซ์เพรส จะมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งและควบคุมคุณภาพที่มีมาตรฐานระดับสากล พร้อมทั้งขยายการเชื่อมต่อเครือข่ายการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศ และยกระดับประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซของลูกค้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยสโลแกนที่ว่า “เราจะให้บริการลูกค้าที่ดีขึ้น” เพื่อมุ่งไปสู่ปลายทางแห่งความสำเร็จของปี 2566 ทั้งในด้านนวัตกรรมและการพัฒนาบริการ รวมถึงคุณภาพทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง"