อุทาหรณ์! ชายวัย 55 ปี ชาวอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ เก็บไฟแช็คและเจลแอลกอฮอล์ไว้ในกระเป๋าวางบนเบาะหน้ารถกระบะท่ามกลางอากาศร้อนจัด ก่อนไปทำงานที่วัด ภรรยาได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้ง ก่อนเกิดไฟลุกไหม้วอดเสียหายทั้งคัน เตือนไม่ควรเก็บไฟแช็คหรือของที่เป็นเชื้อเพลิงไว้ในรถ
7 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 6 เม.ย.66 ศูนย์วิทยุสถานีตํารวจภูธรนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ ที่บ้านทุ่ง ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองนางรอง , อบต.นางรอง หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ และกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ร่วมตรวจสอบและระงับเหตุเพลิงไหม้
เมื่อไปถึงพบที่เกิดเหตุพบ รถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็ก สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ยง -929 นครราชสีมา ซึ่งจอดอยู่บริเวณข้างบ้านเลขที่ 97 บ้านทุ่ง ตำบลนางรอง ถูกไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งฉีดน้ำดับโดยใช้ประมาณครึ่งชั่วโมงจึงสามารถดับไฟได้ แต่รถได้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคันแล้ว เพราะก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยฯ จะมาถึงไฟได้ลุกไหม้รถคันดังกล่าวเป็นเวลานานแล้ว ทั้งเจ้าของและชาวบ้านพยายามนำน้ำมาดับแต่ก็ไม่สามารถดับได้
จากการสอบถามนายบุญถือ มุงไทสง อายุ 55 ปี เจ้าของรถกระบะคันเกิดเหตุ บอกว่า ได้จอดรถกระบะคันไว้บริเวณดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้า จากนั้นก็ออกไปช่วยงานที่วัดในหมู่บ้าน กระทั่งภรรยาไปเห็นโทรไปบอกว่าไฟไหม้รถยนต์ก็ตกใจรีบกลับมาดูก็พบว่าเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันฉีดน้ำดับไฟ แต่รถก็ถูกไหม้เสียหายทั้งคันแล้ว ซึ่งบริเวณที่จอดรถก็อาศัยร่มเงาจากต้นไม้ แต่บางช่วงก็โดนแดด ประกอบกับในรถได้เก็บไฟแช็ค และเจลแอลกอฮอล์ไว้ในกระเป๋าซึ่งวางเอาไว้บนเบาะหน้ารถด้วย อีกทั้งกระบะท้ายรถก็มีถ่านหุงต้มอยู่ด้วย
ซึ่งสอดคล้องกับที่ภรรยา บอกว่า ก่อนจะเกิดไฟไหม้ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้ง จึงคาดว่าอาจเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ไฟแช็คเก็บไว้ในกระเป๋าบนเบาะหน้ารถเกิดระเบิด ทั้งยังมีเจลแอลกอฮอล์ และถ่านหุงต้มในรถที่เป็นเชื้อเพลิงทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วด้วย ก็อยากฝากเป็นอุทาหรณ์ว่าไม่ควรจะเก็บไฟแช็ค หรือวัตถุใดๆ ที่อาจจะทำให้เกิดประกายไฟไว้ในรถโดยเฉพาะช่วงนี้สภาพอากาศร้อนมาก อาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้รับความเสียหายเหมือนกับตนเองได้