วันที่ 6เม.ย.66 เวลา 09.30น.ที่บริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน ตำบลทุ่งมน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนกว่า 50 คน พากันชุมนุมกันที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนฯพร้อมกับถือป้ายข้อความเพื่อขับไล่  ผู้อำนวยการโรงเรียน  โดยกล่าวหาว่า มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมไม่โปร่งใสในการบริหารงานในโรงเรียน หลายประการ เช่น การสร้างห้องส้วมส่วนตัวไว้ในห้องพักผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งที่ผ่านมามี ผอ.หลายคนที่ใช้พื้นที่ตรงนั้นเป็นที่ตั้งโต๊ะหมู่บูชาเป็นที่สักการะบูชา ยึดเหนี่ยวจิตใจของบุคลากรในโรงเรียนมาโดยตลอด

โครงการอาหารกลางวันของนักเรียนชั้นอนุบาลและชั้นประถมศึกษา ให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่ไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณ มารับประทานด้วยจึงส่งผลทำให้นักเรียนชั้นประถมศึกษารับประทานอาหารไม่อิ่ม ตลอดถึงคุณภาพอาหารลดลง การนำเงินทุนสมอภาคของนักเรียนมาทำเป็นเงินบริจาค โดยหักเงินทุนไว้ก่อนคนละ 500 บาท แล้วแจ้งผู้ปกครองว่าบริจาคเพื่อซ่อมแซมห้องน้ำ เป็นพฤติกรรมที่ไมโปร่งใสต่อผู้ปกครองนักเรียน ไม่มีความโปร่งใสในเรื่อง เงินผ้าป่าของโรงเรียน ที่ถูกต้องและชัดเจนโดยไม่มีการชี้แจงรายละเอียดให้ชุมชนได้รับทราบ ไม่มีรายละเอียดรายรับ – รายจ่าย และการนำคนในครอบครัวมาอยู่ที่โรงเรียนในเวลาปฏิบัติราชการ แล้วต้องให้บุคลากรในโรงเรียนคอยช่วยดูแลอีกด้วย ส่งผลเสียต่อการจัดการเรียนการสอนไม่เต็มที่ของครูและบุคลากร กลุ่มคนรักบ้านโซงเหล่าโป่ จึงมีความต้องการขอให้ย้าย นางสาวสมถวิล  ขันอาษา ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ออกนอกพื้นที่โดยด่วน เพื่อให้การพัฒนาโรงเรียนโซงเหล่าโปวิทยา เป็นไปในทางที่ดีกว่านี้

นางบังอร อายุ 56 ปี ตัวแทนชาวบ้าน บอกว่า เนื่องจากกลุ่มชาวบ้านที่เป็นผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียน ได้รับความเดือดร้อนจากที่ ผอ.โรงเรียนคนนี้ที่มีความไม่โปร่งใสอยู่หลายเรื่องและการบริหารงานที่ไม่เหมาะสมอย่างเช่นการหักเอาเงินทุนของนักเรียนไปคนละครึ่งเพื่อนำเงินทั้งหมดไปทำห้องส้วมส่วนตัวเอาไว้ในห้องพักของ ผอ.ซึ่งไม่เหมาะสมและไม่เคยประชุมหรือสอบถามกรรมการสถานศึกษาเลย ที่สำคัญ ผอ.คนนี้ไม่ถูกกับชาวบ้านตั้งแต่ย้ายมา ที่ผ่านมาชาวบ้านเคยไปยื่นหนังสือขอให้ย้าย ผอ.คนนี้มาแล้วหลายครั้งเคยไปยื่นที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอคำเขื่อนแก้ว และเคยไปยื่นหนังสือที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายโสธร เขต 1 มาแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

จนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาชาวบ้านได้เข้าไปตามเรื่องที่สำนักงานเขตการศึกษาฯอีกครั้งได้รับคำตอบว่าให้ทำหนังสือเข้ามาใหม่อีกรอบและกำชับว่าห้ามมีข้อเสนอเกี่ยวข้องกับเงินเข้ามาแต่ให้ระบุเฉพาะส่วนที่มีปัญหาไม่ถูกกับชาวบ้านเท่านั้น ตนพร้อมด้วยชาวบ้านไม่รู้จะไปพึ่งใครจึงต้องร้องผ่านสื่อฯและต้องการให้ย้าย ผอ.คนนี้ออกจากพื้นที่โดยด่วน เพื่อให้ ผอ.คนอื่นที่ดีกว่านี้เข้าไปบริหารโรงเรียนต่อไป
 
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม  ผอ.โรงเรียน ได้รับคำชี้แจงว่า คนที่ร้องเรียนตนเนื่องจากเป็นคนที่ขับรถถอยชนประตูโรงเรียนจนได้รับความเสียหาย ซึ่งตนอยากให้เขารับผิดชอบแต่เขาไม่รับผิดชอบจึงเกิดความขัดแย้งกันขึ้น จากนั้นตนจึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คำเขื่อนแก้ว เพื่อจะได้ของบประมาณจากภาครัฐเข้าไปซ่อมแซมตามขั้นตอน ส่วนประเด็นเรื่องห้องส้วมเป็นเงินส่วนตัวที่ตนออกค่าใช้จ่ายเอง โครงการอาหารกลางวันที่ตนอนุญาตให้เด็กมัธยมไปรับประทานกับเด็กประถมศึกษานั้น เนื่องจากตนได้รับบริจาคเงินและข้าวสารมาจากภาคเอกชนตนจึงอยากให้นักเรียนมัธยมได้รับประทานอาหารกลางวันด้วยเท่านั้น

 

สำหรับเงินทุนเสมอภาคของนักเรียนนั้นก่อนที่ตนจะหักเงินไปก็ได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบแล้วแต่เมื่อผู้ปกครองไม่ยินดีบริจาคตนก็ได้คืนเงินทั้งหมดที่หักไปคืนให้กับผู้ปกครองจนครบทุกคนแล้ว และประเด็นการนำบุคคลในครอบครัวไปอยู่ในโรงเรียนนั้นเป็นบิดาของตนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตนเองไม่ได้และที่บ้านไม่มีคนดูแลตนจึงได้นำบิดามาดูแลที่โรงเรียนด้วย แต่เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมาบิดาตนได้เสียชีวิตแล้ว