สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางไปขึ้นศาลอาญา ที่ย่านแมนฮัตตัน ในมหานครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ เมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น ภายหลังจากทางคณะลูกขุนใหญ่ มีมติให้สั่งฟ้องต่ออดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้ ในข้อกล่าวหาว่าได้จ่ายเงินให้ “สตอร์มี แดเนียลส์” ดาราสาวหนังผู้ใหญ่ เพื่อไม่ให้เปิดเผยถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง เมื่อช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ปี 2016 (พ.ศ. 2559) ซึ่งคดีความดังกล่าว รวมถึงการปกปิดเรื่องราวความสัมพันธ์อันอื้อฉาวข้างต้น และการปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจอื่นๆ มีจำนวนรวมแล้ว 34 กระทงด้วยกัน โดยหากศาลพบว่าเขามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา ก็จะถูกจำคุกสูงสุดเป็นเวลาถึง 136 ปี

รายงานข่าวแจ้งว่า นายทรัมป์ ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกดำเนินคดีอาญา ได้ให้การปฏิเสธไม่ยอมรับต่อข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยก่อนหน้าที่จะเดินทางออกจากอาคารทรัมป์ทาวเวอร์ ในมหานครนิวยอร์กเพื่อไปขึ้นศาล อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 76 ปี รายนี้ ได้แสดงออกอาการหงุดหงิดผ่านทางใบหน้าของเขา แต่ก็ยังโบกมือทักทายแก่ประชาชนที่มาให้กำลังใจ

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่เขาให้การปฏิเสธในศาล ก็ได้ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ แต่ไม่มีการถ่ายรูปประกอบแฟ้มคดี จากนั้นก็ได้เดินทางกลับไปยังรัฐฟลอริดาทันที เพื่อไปแถลงข่าวที่ “มาร์-อะ-ลาโก” คฤหาสน์หรูของเขาในย่านปาล์มบีช รัฐฟลอริดา

โดยอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ได้แถลงเป็นครั้งแรกหลังจากเดินทางไปศาลที่มหานครนิวยอร์กว่า การตั้งข้อกล่าวหาต่อเขา ถือเป็นการดูหมิ่นประเทศสหรัฐฯ และว่า อาชญากรรมสิ่งเดียวที่เขาทำลงไปนั้น ก็คือ การปกป้องประเทศชาติอย่างไม่หวาดกลัวต่อผู้ที่พยายามจะทำลายประเทศชาติ

ทางด้าน บรรดาผู้เชี่ยวชาญ แสดงทรรศนะว่า คดีของนายทรัมป์ คาดว่าจะใช้นานกว่า 1 ปี กว่าจะมีคำพิพากษาตัดสิน และในระหว่างการพิจารณาคดีนี้ ก็จะไม่มีผลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 (พ.ศ. 2567) ที่นายทรัมป์ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย