วันที่ 5 เม.ย.2566 เวลา 12.00 น. ที่อาคารไอราวัติพัฒนา ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี ข้าราชการฝ่ายรายได้เรียกรับเงินภาษีกว่า 3 ล้านบาทว่า เป็นเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายประมาณ 1-2 เดือนที่แล้ว แต่กทม.ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนในการดำเนินการอย่างไรก็ตาม เมื่อมีการวางแผนนำกำลังเข้าจับกุมจนพบหลักฐานชัดเจนจึงได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการหลักและคณะกรรมการรอง โดยประสานงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ป.) เนื่องจาก กทม.ไม่มีอำนาจดำเนินการทางอาญา เบื้องต้นทำได้เพียงย้ายข้าราชการฝ่ายรายได้ เขตราชเทวีรายดังกล่าวมาส่วนกลาง เพื่อดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอน ทั้งนี้ยังไม่สามารถสั่งพักงานได้เนื่องจากกทม.ยังไม่มีตำแหน่งทดแทน ต้องปฏิบัติตามการสงวนตำแหน่งว่างเพื่อย้ายข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ทั้งนี้ ไม่ต้องการย้ายผู้กระทำความผิดไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่น เกรงจะเป็นการย้ายคนไม่ดีไปกระทำผิดซ้ำเขตอื่นต่อไป อย่างไรก็ตาม ต้องรอกระบวนการสอบสวนจากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นภายใน 120 วัน ปัจจุบันสั่งการให้เพิ่มผู้ตรวจการเก็บภาษีรายได้เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายรายได้มากขึ้น โดยไม่ปล่อยให้ฝ่ายรายได้ใช้ดุลยพินิจในการจัดเก็บภาษีแต่ผู้เดียว
นายชัชชาติ กล่าวว่า เป็นห่วงและสงสารครอบครัวผู้กระทำความผิด อาจได้รับผลกระทบระยะยาว ซึ่งกทม.ยืนยันว่าเอาจริงเอาจังเรื่องทุจริต ยอมรับว่ายังมีการทุจริตกรณีอื่นๆ อีกหลายรายในกลุ่งงานต่างๆ เช่น สำนักงานการโยธา ฝ่ายรายได้ และสำนักสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม กทม.ในฐานะศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานครได้ประสานงานร่วมกับ ป.ป.ป.อย่างต่อเนื่องเพื่อดำเนินการกับผู้ทุจริตรายอื่นๆ ต่อไป ตามนโยบาย กทม.โปร่งใส ไร้ทุจริต