เมื่อเวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้รับแจ้งมีชายเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธมีดจับชาวบ้าน 5 คน เป็นตัวประกัน ภายในบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย กำลังตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ชุดปฎิบัติการพิเศษฉลามขาว และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและสายตรวจรวมกว่า 30 นาย ปิดล้อมพื้นที่บ้านพักหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ยกสูง ริมถนนในชุมชนคลองบางน้ำจืด โดยผู้ก่อเหตุใช้มีดจี้ตัวประกันอยู่ในบ้าน ซึ่งเป็นห้องนอนด้านล่างปิดผ้าม่านและไฟเงียบสนิท และใช้วิธีสื่อสารผ่านโทรศัพท์หาคนสนิทเท่านั้น และไม่ยินยอมให้ใครเข้าใกล้บ้านพัก ซึ่งหากไม่ทำตามก็จะลงมือก่อเหตุทันที เจ้าหน้าที่จึงต้องปิดล้อมพื้นที่ เพื่อหาทางเจรจา กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษ ซึ่งเดินทางไปถึงบ้านที่เกิดเหตุบุกเข้าช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้ 4 คน ซึ่งมีทั้งเด็ก และคนแก่ ได้อย่างปลอดภัย เหลือเพียงหญิงสาวอีกราย ที่ยังถูกจี้เป็นตัวประกัน โดยผู้ก่อเหตุไม่ยินยอมให้ใครเข้าใกล้ตัวบ้านแต่อย่างใด
จากนั้นเวลา 07.30 น. ผู้ก่อเหตุได้ขอ ให้ส่งน้ำดื่มเข้าไปให้ พร้อมทั้งระบุว่า หากมีการบุกเข้ามาชิงตัวประกันอีกครั้ง ก็จะลงมือฆ่าตัวประกันทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมพยาบาล ต้องวางแผนนำยาสลบผสมน้ำให้ดื่ม ขณะเดียวกันชุดปฎิบัติการพิเศษฉลามขาว ที่มีอาวุธครบมือ จึงตัดสินใจวางแผนกับหญิงคนสนิท ที่ชายผู้ก่อเหตุให้ซื้อน้ำไปส่งให้ โดยอาศัยจังหวะที่ผู้ก่อเหตุอยู่ห่างจากตัวประกัน ให้ส่งสัญญาณกับชุดปฎิบัติการพิเศษ ที่เตรียมกำลังรออยู่ด้าน เพื่อเข้าทำการจู่โจม
กระทั่งเวลา 08.30 น. ได้เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้นหนึ่งครั้ง เจ้าหน้าที่เข้าจู่โจม ช่วยหญิงสาวตัวประกันออกมาได้อย่างปลอดภัย และมีเพียงบาดแผลจากการถูกคมมีด ที่คนร้ายจี้ตัวเอวไว้ก่อนหน้านี้เพียงเล็กน้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตัดสินใจจู่โจม เข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ และคุมตัวผู้ต้องหาไปที่สถานีตำรวจทันที
นายสมชาย อนุพันธ์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งถูกจับเป็นตัวประกัน เปิดเผยว่าผู้ก่อเหตุคือ นายวิรัตน์ หรือ เอก อายุ 44 ปี เป็นอดีตลูกจ้างขับรถสองแถวของที่บ้าน ซึ่งได้ลาออกไปก่อนหน้านี้ได้ไม่นาน โดยมีปัญหาเรื่องติดหนี้สินการพนัน กระทั่งช่วงเย็นของวานนี้ นายเอก ได้เดินทางมาที่บ้าน และไม่ได้พูดอะไร จากนั้นจึงเดินไปคว้ามีปลอกผลไม้ขึ้นมาข่มขู่ และบอกทุกคนในบ้านว่า จะเอาเป็นตัวประกัน โดยห้ามใครออกจากบ้าน
นายเอก เรียกภรรยาของตนและลูกสาวเข้าไปในห้อง มีการพูดจาข่มขู่ ว่าจะลงมือฆ่าให้ตาย หากคนในบ้านไม่เชื่อฟัง ซึ่งขณะเกิดเหตุตนเองไม่สามารถใช้โทรศัพท์ หรือตะโกนบอกใครได้เลย เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับภรรยา และลูก กระทั่งลูกสาวเดินทางมาส่งข้อความ เพื่อขอความช่วยเหลือจากญาติ เพื่อให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้รีบเดินทางเข้ามาช่วยเหลือ และสามารถนำตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่ พล.ต.ต.พัลภล แอร่มหล้า ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า การปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษ ในครั้งนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่สามารถเข้าใกล้บ้านที่เกิดเหตุได้ อีกทั้งมองไม่เห็นภายในห้อง เพราะผู้ก่อเหตุปิดประตู และปิดผ้าม่าน อีกทั้งไม่รู้ความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุ ดังนั้น ชุดจู่โจมจึงได้ร่วมกันวางแผนจากเบาไปหาหนักโดยเริ่มจากขั้นตอนต่างๆ จนสามารถบุกชิงตัวประกันออกมาได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้จะต้องใช้เวลานานถึง18 ชั่วโมง
ขอบคุณภาพเฟซบุ๊คจาก TON RKC