การเมืองเรื่องจับเบอร์
วันนี้ไป ศาลาว่าการ กทม. ดินแดง เพื่อรณรงค์ต่อต้านกัญชา และการเมืองสีเทา
ผมเริ่มต้นเป็น “นักเคลื่อนไหว” ของสังคมนี้
การเลือกตั้งครั้งนี้มีถึง 49 พรรค เข้าร่วมประลองยุทธ์ให้ประชาชนเลือก
ไฮไลท์อยู่ที่การจับหมายเลขของแต่ละพรรค
คนไทยชอบเรื่องเบอร์ จึงขอตีความตามหมายเลขให้อ่านสนุกๆ เฉพาะพรรคใหญ่ที่น่าจะได้ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์มาก
เพราะบางพรรคโอกาสมี ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์คงน้อย เนื่องจากมีบัตร 2 ใบ
เลือก ส.ส.เขต ที่ตัวเองถูกใจ
เลือก พรรค ที่ตัวเองชอบ
เริ่มตั้งแต่
- พรรคภูมิใจไทย ได้หมายเลข 7 อันนี้ตีความได้ชัดว่า “เจ๊ง” เพราะเป็นเลข “เจ็ด” หรือจะออกเสียงเพี้ยนว่า “เจ็บ” อันหมายถึงการเจ็บตัวในการเลือกตั้งครั้งนี้
การชูมือต้องชูมือข้างหนึ่ง 5 นิ้ว อีกมือชู 2 นิ้ว จึงดูไม่เต็มไม้เต็มมือ
หากเป็นทางดาราศาสตร์ถือเป็น “ดาวแห่งทุกข์โศก” ยิ่งเอาไปตีความว่า “ทำงาน 7 วันไม่หยุด” แสดงถึงความยากลำบากของหนทางข้างหน้า
- พรรคชาติไทยพัฒนา ได้หมายเลข 18 ถือว่าเป็นเลขดีของคนจีน เพราะในภาษากวางตุ้ง หมายถึงหาเงินง่าย (ออกเสียงว่า “สับปาด”)
นอกจากนั้น 1 + 8 = 9 เป็นเลขมงคล
- พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้หมายเลข 22 เป็นเลขคู่เหมือน ชู 2 ข้าง 2 นิ้ว ถือว่าเท่าทุน ไม่ได้ไม่เสีย เป็นศูนย์รวมของอารมณ์ ทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกคน
หากให้ฝรั่งชู 2 นิ้วด้วยมือ 2 ข้าง ทำนิ้วงอๆ หมายถึงเครื่องหมาย “-“ หรืออัญประกาศ แปลว่า “คำพูด” คือ พูดเก่งแต่อยู่ในวงจำกัด
- พรรคประชาธิปัตย์ ได้หมายเลข 26 เป็นเลขอมทุกข์ มีภัยไข้เจ็บมาจากโรคเก่าเรื้อรัง แม้มีความมุ่งมั่น แต่จะพบความกดดันอย่างรุนแรง และอาจมีโรคแทรกซ้อนอีกด้วย
- พรรคเพื่อไทย ได้หมายเลข 29 มีความหมายเป็นเลขใฝ่รู้ มีเสน่ห์ หากเรียกเรียงตัว คือ “สองเก้า”
คือต้องใช้สองเท้าก้าวเดินต่อไป
- พรรคก้าวไกล ได้หมายเลข 31 เป็นพลังแห่งความไม่แน่นอนของชะตา เบื้องต้นลำบาก แต่ประสบความสำเร็จในบั้นปลาย ยังมีเรื่องอุบัติเหตุกลางคันที่ต้องระวัง
- พรรคพลังประชารัฐ ได้หมายเลข 37 เป็นเลขที่บวกกันได้ 10 หมายถึงพอดี แต่ถ้าไปเล่นไพ่บาคาร่าจะกลายเป็น 0 แต้ม ต้องลุ้นอีกใบ
หมายถึง หากฝั่งตรงข้ามชนะขาด ก็ไม่ต้องพึ่ง คือ หมอบ
แต่หากชนะไม่ขาดก็ยังลุ้นได้ สถานการณ์เรียกว่าก้ำกึ่ง
ข้อดีของคนที่จับได้เลข 2 หลัก คือ ไม่ซ้ำกับเลขผู้สมัคร ส.ส. เขตแน่นอน
ที่จะไปซ้ำก็เป็นพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น ที่จับหมายเลขปาร์ตี้ลิสได้เบอร์เดี่ยวอยู่พรรคเดียวที่เป็นพรรคใหญ่ และจะจำลำบาก เวลาไปกาอาจเกิดความสับสน
ไม่ว่าพรรคจะได้เบอร์อะไร ก็ขอให้ทำงานเพื่อประชาชน
อย่าไปหวังเข้าสภาแล้วทำตัวเป็น ส.ส. ขายตัวก็แล้วกัน จะจับประจานเสียให้เข็ด
ประชาชนต้องช่วยกันจำ จดบันทึกไว้ อย่าได้เอามาเป็น “ผู้แทน”
พรรคไหนใช้กระสุนมากสุด ก็คือลงทุนมากสุด และการลงทุนคือ “ความเสี่ยง”
กลยุทธ์ของผมครั้งนี้ ปฏิบัติการณ์ “กระแสล้อมกระสุน”
ใครที่มีกระสุนมากแต่ยิงแล้วด้าน ไม่ได้ผลตรงเป้า กระสุนจึงแพ้กระเส
เพราะประชาชนจะใช้กระแสสั่งสอนให้เป็นบทเรียน กับพรรคการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์