นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงถึงโพล “พฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี2566” ว่า สงกรานต์ปีนี้คงตอบได้ชัดเจนว่าสุดคึกคัก เนื่องจากประชาชนลดความกังวลต่อการแพร่ระบาดโควิด และปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ยังมีอยู่ในหลายพื้นที่ขณะนี้ก็ตาม โดยปัญหาดังกล่าวหลังจากติดตามดูคนส่วนใหญ่ลดความกังวล ทำให้มั่นใจว่าจะออกไปท่องเที่ยวและสังสรรค์ ลดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ไปทำบุญและอื่นๆทำให้สงกรานต์ปีนี้ประชาชนจะไปท่องเที่ยวทั่วไทยมากขึ้น โดยประชาชนจะเน้นไปสถานที่ชายทะเลมากกว่าไปท่องเที่ยวในภาคเหนือเพื่อเลี่ยงปัญหาฝุ่น PM 2.5 กัน

ทั้งนี้คาดว่าสงกรานต์ปี 2566 จากกิจกรรมด้านต่างๆจะทำให้เงินสะพัดในช่วงสงกรานต์ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 125,203 ล้านบาท เป็นตัวเลขเทียบกับช่วงปี 59 ถือว่าใกล้เคียงกันมาก ทำให้มองว่าเศรษกิจเริ่มกลับมาดีจากแรงสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว แต่คนส่วนใหญ่ยังกังวลจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและภาคการส่งออกนังไม่ดีนัก ดังนั้น ประชาชนอยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาให้เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวพร้อมทั้งแก้ไขปัญหาด้านคอรัปชั่นในทุกวงการให้น้อยลง จึงมองได้ว่าในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งในเดือนพ.ค.66 จะทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันอย่างคึกคักแน่นอน เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการให้มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาให้ดศรษฐกิจไทยกลับมาดีขึ้น

โดยแม้ปีนี้คนส่วนใหญ่จะออกมาเล่นเทศกาลสงกรานต์กันมาก แต่ยังกังวลด้านการจับจ่ายใช้สอยเนื่องจากมองว่าสินค้าและบริการมีราคาแพงมากในช่วงสงกรานต์ รวมทั้งปัญหาด้านอุบัติเหตุและรถติดในช่วงเดินทางไปและกลับ จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเตรียมแผนรองรับทั้งการเดินทางและดูแลปัญหาราคาสินค้าและบริการไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบของผู้ค้า ดังนั้น ต่อความกังวลทั้งปัญหาเศรษฐกิจในประเทศและปัญหาเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะการประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปคจะทำให้หลังจากนี้โอกาสราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นอีก ทำให้การจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลสงกรานต์แม้จะคึกคักแต่เป็นใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น โดยหลายปัจจัยดังกล่าวทำให้ศูนย์พยากรฯมองว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยยังเติบโตอยู่ที่ 3-4% ได้แน่นอน