หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานเพื่อรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 73 เป็นเครื่องพิสูจน์ …*…

 วันนี้ 3 เมษายน เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครส.ส.แบบเขตทั่วประเทศ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดเอาไว้ระหว่างวันที่ 3-7 เมษายน บรรยากาศการรับสมัครส.ส.แบบเขต วันแรก วันนี้จึงเต็มไปด้วยความคึกคักทั่วไทย  ตามโปรแกรม แต่ละพรรค “หัวหน้าพรรค” จะนำทีมว่าที่ผู้สมัครไปรอกันตั้งแต่เช้ามืด โดยเฉพาะที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง  จะกลายเป็น “ศูนย์รวม” แห่งสีสัน ทั้ง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย , “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ , “กรณ์ จาติวกณิช” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า , “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล  ส่วน “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะลุยไปนำทีมผู้สมัครในต่างจังหวัดอันเป็น “เป้าหมายหลัก” ของภูมิใจไทย …*…

ส่วนที่ต้องจับตาคือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะว่าที่แคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ  มีคิวที่จะต้องนำทีมผู้สมัครของพรรค ไปสมัครทั้งวันที่ 3 เมษายน และวันที่ 4 เมษายน สำหรับ “บัญชีรายชื่อ”  เช่นเดียวกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเดินทางไปให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.กทม. ของพรรค ด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับในวันรับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ 4 เมษายน …*…  

ดังนั้นจะเกิดภาพประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่น่าสนใจ นั่นคือทั้ง “บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่” จะต้องไปเจอกันในวันรับสมัคร ต่างคนต่างอยู่กันคนละพรรค  ถือเป็นการ “แยกกันเดิน” ของ “2 ป.” ในทางการเมืองอย่างชัดเจน ส่วนที่เหลือ “ความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้อง” อันยาวนานหลายสิบปี จะออกมาเช่นใด จะแยกกันเดินแล้ว ร่วมกันตี หรือทั้งคู่ ถึง “ทางแยก” กันจริงๆ !? …*…

ความสูญเสียครั้งสำคัญ สำหรับ “ครอบครัวอัศวเหม”  เมื่อ “ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ จากไปอย่างกะหัน จากภาวะฮีตสโตกขณะซ้อมแข่งรถที่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ผ่านมาถูกจับตามองว่าจะส่งผลกระทบในทางการเมืองหรือไม่ เมื่อ “กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า” ขั้วการเมืองสำคัญ ที่ขับเคลื่อนโดย “ชมน์สวัสดิ์” กำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่ดูเหมือนว่า ความกังวล ความวิตกกังวลที่ว่านั้น มีความชัดเจนจาก “วัฒนา อัศวเหม” บิดาของ “ชนม์สวัสดิ์” ที่แม้ไม่ได้อยู่ในเมืองไทย แต่เขาย่อมรู้ดีว่าหลังความสูญเสียครั้งนี้คือ “ภาคต่อทางการเมือง” ที่ต้องกุมสภาพเอาไว้ให้ได้ …*…

 “สุนทร ปานแสงทอง” รมช.เกษตรและสหกรณ์ ถือเป็น “สายตรงบ้านใหญ่ปากน้ำ”   คือผู้ถ่ายทอด สิ่งที่ “วัฒนา” คิดและต้องการ “ส่งสาร” มายังกลุ่มปากน้ำ และพี่น้องประชาชนชาวสมุทรปราการ ทั้งด้วย “จดหมายเปิดผนึก” และ “คลิปเสียง” โดยมีหลักใหญ่ใจความ คือการให้ความมั่นใจว่า ทุกอย่างจะต้องเดินหน้าต่อไป  "ใคร่ขอเรียนต่อพี่น้องชาวสมุทรปราการ ให้มั่นใจได้ว่า ทีมสมุทรปราการก้าวหน้า จะขอทำงาน ทำสมุทรปราการบ้านของเรา จักยังคงดำรงอยู่ทำงานต่อไปอย่างเข้มแข็ง ทั้งงานท้องถิ่นและงานการเมืองระดับชาติ ผมจะดูแลอย่างเข้มแข็ง และใกล้ชิดกว่าเดิม" วันนี้ “เจ้าพ่อปากน้ำ” อย่าง “วัฒนา” ในวัย 86 ปี จะต้องขับเคลื่อน “ขุมกำลังทางการเมือง” แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ในเมืองไทย ก็ตาม …*…

หลังจากที่แสดงฝีมือ สร้างผลงาน “มือปราบคดีโกงแชร์ลูกโซ่” จนเป็นที่รู้จัก ล่าสุด “พรรคพลังประชารัฐ” โดย “ไพบูลย์ นิติตะวัน”  ประธานคณะกรรมการนโยบาย ได้ลงนามแต่งตั้ง “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช”  อดีตผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานคณะทำงานเผยแพร่นโยบายกองทุนเยียวยาผู้เสียหายในคดีฉ้อโกงประชาชน  นอกจากนี้เจ้าตัวยังแจ้งข่าวดีกับพี่น้องประชาชนด้วยว่า “บิ๊กป้อม” ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้รับนโยบายการแก้ปัญหาแชร์ลูกโซ่ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีการยกมาตรฐานคุ้มครองประชาชนที่ถูกฉ้อโกงไป จะต้องได้รับเงินคืน ไม่ต้องรอกันเป็นสิบๆปี อีกแล้ว …*…

ที่มา:พันแสง (3/4/66)