ตำรวจขอนแก่นเร่งล่า "เสือฝ้าย มัญจา" ขโมยเวสป้าชาวบ้าน ก่อนจับออกไปก่อเหตุรายวันไปทั่ว ผกก.ยืนยัน อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 เม.ย.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของ นายธนาวิทย์ นัยวินิจ อายุ 32 ปีเจ้าของร้านอาหารเครื่องดื่ม ในเขตเทศบาลตำบลกุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ที่บ้านเลขที่ 78 ม.13 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หลังถูกคนร้ายก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ เวสป้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กธ- 78 ขอนแก่น มีหลักฐานชัดเจน แต่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายรายดังกล่าวได้ 

นายธนาวิทย์  กล่าวว่า ตนเองและภรรยาไปขายอาหารที่ร้านทุกวัน ที่บ้านจึงมีเพียงมารดาอาศัยอยู่คนเดียว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่าน หลังปิดร้านจึงเดินทางกลับมาที่บ้าน ก็ไม่เห็นรถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่หน้าบ้าน คิดว่าญาตินำไปใช้ จนกระทั่ง มืดค่ำ ทุกคนกลับเข้าบ้านจึงรู้ว่ารถหาย จึงรีบไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.ประภาส ระวินู รองสว.(สอบสวน)สภ.มัญจาคีรี ลงประจำไว้เป็นหลักฐานและสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเพิ่งซื้อมาได้เพียง 3 เดือน และยังต้องจ่ายอยู่ทุกเดือน จึงอยากได้รถคืนกลับมาด้วย

"หลังแจ้งความตำรวจแนะนำว่าให้หาพยาน หลักฐานที่เกี่ยวกับคนร้ายมาให้  จึงได้ออกหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคนร้ายส่งให้ตำรวจมาอย่างต่อเนื่อง โดยหลักฐานชิ้นแรกเป็นภาพวงจรปิดของเพื่อนบ้านที่บันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ ขณะเดินเข้าไปในซอยที่บ้านตน และบันทึกภาพตอนที่คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ออแกจากซอยในบ้านพัก ก็นำไปมอบให้ตำรวจเป็นที่เรียบร้อย  แต่ตำรวจแจ้งว่าใบหน้าไม่ ชัดเพราะคนร้ายใส่หมวกกันน็อค"

นายธนาวิทย์ กล่าวต่ออีกว่า จากนั้นจึงนำภาพของคนร้ายไปลงในเพจต่างๆของจังหวัดขอนแก่น เพื่อตามหาคนร้ายและรถจักรยานยนต์ ซึ่งมีเบาะแสแจ้งเข้ามาจำนวนมาก จึงได้ติดตามขอวงจรปิดในที่ต่างๆไปให้ตำรวจ โดยเฉพาะที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในเขตอำเภอชนบท บันทึกภาพคนร้ายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ของตน เข้าไปเติมน้ำมัน จำนวน 60 บาท แต่ไม่มีเงินจ่าย ได้เอาสายไฟค้ำประกันค่าน้ำมันไว้ เพื่อจะเอาเงินมาจ่ายวันหลังๆ ซึ่งพนักงานในปั้มยืนยันว่า คนร้ายที่ขับขี่รถเข้ามาเติมน้ำมันคือนายฝ้ายหรือเสือฝ้าย อายุ 35 ปีอยู่ ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น จึงนำหลักฐานต่างๆ ที่เป็นคลิปตั้งแต่วันเกิดเหตุ จนถึงวันเติมน้ำมัน  ซึ่งคนร้าย ขับขี่รถจักรยานยนต์ของตน ไปก่อเหตุลักทรัพย์ส่งให้ตำรวจสภ.มัญจาคีรีทั้งหมดแล้ว แต่ตำรวจยังไม่จับกุม และไม่มีความคืบหน้าทางคดี สอบถามไปก็บอกเพียงว่า กำลังสืบสวนหาตัวอยู่

“หลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคนร้ายคือเสือฝ้ายนั้น ไม่ได้มอบให้เพียงตำรวจสภ.มัญจาคีรี ซึ่งเป็นตำรวจพื้นที่ก่อเหตุ แต่ยังนำไปมอบให้ตำรวจสภ.ชนบท เพื่อเป็นเบาะแสในการสืบสวนจับกุมคนร้าย แต่ก็ไม่มีพื้นที่ใดจับกุมตัวได้เลย ทั้งที่เสือฝ้ายคนร้ายรายนี้ ก่อเหตุลักทรัพย์ชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งลักไข่ ลักน้ำมันพืช ลักถังแกส ลักคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ลักสายไฟและลักเนื้อแดดเดียว จึงอยากขอร้องให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมเสือฝ้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะชาวบ้านเดือดร้อนกันมาก”

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนางสมร นราวงษ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 ม.7 บ้านโจด ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เจ้าของร้านขายของชำ ในหมู่บ้าน อยู่ติดถนนสายมัญจาคีรี-ชนบท ซึ่งเป็นจุดที่เสือฝ้าย เข้าไปกินข้าวและลักทรัพย์เนื้อแดดเดียว น้ำหนักหนึ่งกิโลกรัมครึ่ง ราคา 500 บาทไปในคืนวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา

 

นางสมร กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุทุกคนในบ้านเข้าห้องนอนพักผ่อนกันตามปกติแล้ว กระทั่งเช้าวันที่ 29 มี.ค.ตื่นขึ้นมานึ่งข้าวเหนียวในครัวหลังบ้าน ก็พบว่าฝาชีที่ครอบ เนื้อแดดเดียวทอด ปลาร้าบอง ไว้ และกระติ๊บข้าวเหนียวถูกเปิดทิ้งไว้ ก็งงว่าใครกินข้าวแล้วไม่เก็บให้เรียบร้อย และเมื่อเปิดตู้เย็นดูกับข้าวที่อยู่ในตู้ก็ปรากฏว่าเนื้อแดดเดียวที่ใส่ถุงไว้น้ำหนัก หนึ่งกิโลกรัมครึ่ง หายไป จึงไปถามสามีและลูกชาย ทุกคนก็ว่าไม่ได้กินข้าวและไม่ได้เอาเนื้อแดดเดียวไป

“ลูกชายเปิดกล้องวงจรปิดดูทำให้เห็นคนร้าย เป็นชาย ไม่สวมหมวกกันน็อค จูงรักจักรยานยนต์ เข้ามาในบริเวณบ้านแล้วจอดไว้ จากนั้น คนร้ายอ้อมไปหลังบ้าน จึงเชื่อว่า ชายรายนี้คือคนร้ายที่เข้าไปในครัวหลังบ้าน กินข้าวจนอิ่มแล้วหิวน้ำจึงเปิดตู้เย็นหาน้ำกิน แต่ไปเจอเนื้อแดดเดียว จึงลงมือลักเนื้อแดดเดียวไปแล้วเอาไปขายที่ตลาดสดในเขตเทศบาลตำบลกุดเค้า แต่ไม่มีใครซื้อ และเชื่อว่าเสือฝ้ายคือคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุลักเนื้อแดดเดียว แต่ไม่ได้แจ้งความ เพราะคิดว่า ทำบุญทำทานให้เขาได้กินอิ่ม ความเสียหายเล็กน้อย จึงไม่อยากเอาเรื่อง”

 

ด้าน พ.ต.อ.พิชัย นาขันดี ผกก.สภ.มัญจาคีรี   กล่าวว่า ได้ตรวจสอบรายละเอียดจากพนักงานาสอบสวนแล้วทราบว่า พยาน หลักฐาน ที่ผู้เสียหายนำมาให้นั้น เพียงพอมในการเป็นหลักฐาน เพื่อสืบสวนจับกุมคนร้ายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ จับกุมคนร้ายมาดกำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนฉายาเสือฝ้ายนั้น เนื่องจากคนร้ายชื้อเล่นว่าฝ้าย และมักก่อเหตุลักเล็กขโมยน้อยที่เป็นทรัพย์สินของชาวบ้านและญาติพี่น้อง ที่ไม่มีใครเอาเรื่องและแจ้งความ จึงยังไม่เคยถูกจับกุม  แต่ในส่วนของการลักทรัพย์รถจักรยานยนต์รายล่าสุดนั้น ผู้เสียหายแจ้งความและให้สืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการสืบสวนหาตัวมาอย่างต่อเนื่อง แต่นายฝ้าย ไม่กลับเข้ามาในพื้นที่  ซึ่งเชื้อว่าน่าจะขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปเรื่อย ซึ่งหลังจากขอหมายจับได้แล้วก็จะส่งภาพคนร้ายไปยังสภ.ต่างๆเพื่อติดตามจับกุมเสือฝ้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมาย