ชาวประโคนชัย ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ไฟไหม้บ่อขยะเป็นประจำมีกลุ่มควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณรัศมีกว่า 5 กม.ทั้งตัวอำเภอคาดมีคนแอบเผา ระบุสถานการณ์ยิ่งแย่กว่าทางภาคเหนือ เพราะไฟไหม้บ่อขยะมาร่วม 30 ปี ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ ผู้ว่าฯคาดโทษคนเผา พร้อมประสานประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.66 ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ใน ต.ปังกู และ ต.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าทนทุกข์ทรมานกับฝุ่นควันที่เกิดจากการเผาบ่อขยะเป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นวงกว้างใน ซึ่งจากการตรวจสอบในช่วงกลางคืน ตามเขตเทศบาลประโคนชัย อ.ประโคนชัย จะมีฝุ่นคละคลุ้งปกคลุมทั้งตัวอำเภอประโคนชัย ส่วนบ่อขยะของอำเภอประโคนชัย อยู่ที่บ้านห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 5 กม.
โดยมีการลงพื้นนที่ตรวจสอบ พบว่าบ่อขยะของอำเภอ เกิดไฟไหม้ลามไปเกือบทั้งบ่อขยะเนื้อที่กว่า 50 ไร่ มีรถเจ้าหน้าที่เข้ามาดับไฟบ่อขยะ แต่ยังมีกลุ่มควันคละคละคลุ้ง
ด้าน นางสมบัติ อายุ 62 ปี ชาวบ้านที่อยู่ห่างจากบ่อขยะประมาณ 1 กม. กล่าวว่า ไฟไหม้บ่อขยะเป็นประจำตั้งแต่ปี 2537 หรือเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้หนักสุดเพราะควันไฟฟุ้งไปไกล สงสารเด็กเล็กที่ต้องทนทรมานกับควัน ขนาดผู้ใหญ่ยังแสบคอ แสบตา ต้องกินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ ส่วนสาเหตุของไฟไหม้บ่อขยะ ยังไม่มีใครทราบ แต่ไฟจะติดเองคงเป็นไปไม่ได้ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน เพราะฝุ่นควันดังกล่าวเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะหากจะเปรียบเทียบกับฝุ่น PM 2.5 ทางภาคเหนือ ที่อำเภอประโคนชัย หนักกว่า เพราะฝุ่นควันเกิดขึ้นตลอดทั้งปี
ด้านนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้วไฟไหม้บ่อขยะที่ประโคนชัย ได้กำชับให้มีการแก้ไขแล้วเร่งด่วน นอกจากนี้ยังผู้นำท้องถิ่น ช่วยกันรณรงค์ไม่ให้ชาวบ้านเผาตอซังข้าว หรือไร่อ้อย เพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 ในหน้าแล้งนี้ด้วย ส่วนประเทศเพื่อนบ้านที่มีแนวเขตติดต่อกัน ได้เข้าไปประสานและเจรจาแล้ว โดยฝั่งประเทศกัมพูชา ได้ตอบรับว่าจะช่วยกันรณรงค์เช่นเดียวกัน