วันที่ 30 มี.ค.2566 ที่ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบสวนชูวิทย์ ว่า กทม.ทราบข้อมูลจากสื่อมวลชนว่าที่ดินบริเวณสวนชูวิทย์ เจ้าของได้ให้เงื่อนไขไว้ต่อศาลว่าจะยกที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นสวนสาธารณะ เพื่อประชาชนใช้สอยร่วมกัน แต่ กทม.ได้ออกใบอนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารในบริเวณดังกล่าวซึ่งขัดต่อกฎหมาย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงได้มอบหมายให้ปลัดกรุงเทพมหานครเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักการโยธา สำนักงานกฎหมายและคดี และกองรายได้ สำนักการคลัง เข้าร่วมประชุมหรือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นควรดำเนินการ ดังนี้

1.ให้สำนักการโยธา มีหนังสือแจ้งผู้รับอนุญาตก่อสร้างอาคารทราบ และเสนอแนะให้ชะลอการก่อสร้างไว้ก่อน เนื่องจากหากเป็นที่สาธารณะอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ 2.ให้สำนักงานกฎหมายและคดีขอคัดสำเนาคำพิพากษาจากศาลและสรุปข้อเท็จจริง และรายงานให้ปลัดกรุงเทพมหานครทราบ รวมถึงสั่งการตามที่เห็นสมควรต่อไป 3.จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นได้ความว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัทสุขุมวิท ซิลเวอร์ สตาร์ จำกัด ซึ่งอนุญาตให้บริษัท เทนธ์ อเวนิว จำกัด เป็นผู้ก่อสร้างอาคารในที่ดิน มีการเสียภาษีที่ดินตามกฎหมาย รวมถึงมีถ้อยคำในคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 19662-19664/2557 ว่า "จำเลยที่ 129 (นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์) นำที่ดินพิพาทมาก่อสร้างเป็นสวนสาธารณะเพื่อให้ประชาชนใช้พักผ่อน" และ 4.เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย กรุงเทพมหานครจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการสอบสวนเกี่ยวกับการบุกรุกที่หรือทางสาธารณะประโยชน์ พ.ศ.2539 เพื่อพิจารณา หากได้ความว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะจริง กรุงเทพมหานครจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายขจิต กล่าวว่า ขณะนี้ผลการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่กระจ่างชัด ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะนี้ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะหรือไม่ เพื่อให้ความกระจ่างชัดกับประชาชน หากผลการตรวจสอบออกมาอย่างไร กทม.พร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป