ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดช่วงเช้าวันนี้(29 มี.ค.)ที่ระดับ 1,610.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.10 จุด (+0.19%) มูลค่าซื้อขายราว 25,942 ล้านบาท การซื้อขายในช่วงเช้านี้ดัชนีแกว่งตัวแคบทั้งในแดนบวกและแดนลบ โดยขึ้นไปสูงสุดที่ 1,615.29 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 1,602.43 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบระว่างรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงบ่ายวันนี้ ทำให้บรรยากาศการลงทุนไม่คึกคัก รวมถึงตลาดเอเชียด้วย ยกเว้นตลาดหุ้นฮ่องกงที่มีเก็งกำไรหุ้นอาลีบาบา นอกจากนี้ ในวันศุกร์นี้ (31 มี.ค.) จะมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและเงินเฟ้อส่วนบุคคล Core PCE ของสหรัฐ , ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน และ เงินเฟ้อยุโรป รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจไทยจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขณะที่วันพรุ่งนี้ (30 มี.ค.) ตลาดฟิวเจอร์ส สินค้า S50H22 หมดอายุ รวมถึง Single Stock โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ คาดว่าตลาดจะผันผวน ส่วนสัปดาห์หน้าเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
โดยแนวโน้มช่วงบ่ายวันนี้ ขึ้นอยู่กับ กนง.ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.75% หรือไม่ และจะส่งสัญญาณต่อทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างไร หากเป็นไปตามคาดตลาดตอบรับเชิงบวก หุ้นได้ประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มไฟแนนซ์ กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มค้าปลีก พร้อวจับตาประมาณการเศรษฐกิจปี 2566 โดยเฉพาะเป้า GDP และเงินเฟ้อ ให้แนวรับที่ 1,600 จุด แนวต้านที่ 1,610 จุด
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,505.73 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,341.54 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,252.47 ล้านบาท ปิดที่ 994.00 บาท เพิ่มขึ้น 16.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,116.09 ล้านบาท ปิดที่ 152.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,102.84 ล้านบาท ปิดที่ 103.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท