วันนี้ [ 28 มีนาคม 2566 ] ที่สำนักงาน คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ (กสทช.) นายปริวุฒิ บุตรดี เลขาธิการกลุ่มผู้นำแรงงาน NT เดินทางเข้ายื่นหนังสือเพื่อร้องเรียนไปยัง คณะกรรมการ(บอร์ด) กสทช. ขอให้พิจารณาการจัดสรรเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) เพื่อสนับสนุนโครงการจัดให้มีบริการสุขภาพดิจิทัลและโทรเวชกรรมถ้วนหน้า (Universal Telehealth Coverage : UTHC) ในงบประมาณ จำนวน 3,508 ล้านบาท นั้นซ้ำซ้อนกับโครงการของภาครัฐ และไม่สอดคล้องไปตามวัตถุประสงค์ของการใช้เงินกองทุน ที่ต้องให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่ได้รับใบอนุญาตเข้ามาดำเนินการก่อน หากดำเนินการไม่ได้ตามเป้าประสงค์ แล้วค่อยจัดสรรงบไปยังหน่วยงานอื่น
/// จัดสรรงบ 3,500 ล้าน ซ้ำซ้อนภาครัฐ ///
นายปริวุฒิ บุตรดี เลขาธิการกลุ่มผู้นำแรงงาน NT กล่าวว่า โครงการโทรเวชกรรมถ้วนหน้า ที่เสนอเข้ามาให้บอร์ด กสทช.พิจารณาซึ่งใช้ระบบคลาวด์ นั้น อาจจะไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ ของ USO ที่มุ่งเน้นการพัฒนาขยายการบริการและการเข้าถึงบริการโทรคมนาคม แต่ เทเลเฮลท์ (telehealth) เป็นแอป และพัฒนาซอฟแวร์ และซื้อฮาร์ดแวร์ ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข วงเงิน 1,514 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติไปเมื่อเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา โดย ที่ประชุมบอร์ด กสทช.ครั้งล่าสุด จึงได้มีการมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกลับไปทำข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อสร้างความชัดเจนและทำให้กรรมการ กสทช. มีความมั่นใจถึงความซ้ำซ้อนระหว่างโครงการเทเลเมดิซีน (Telemedicine) ที่เสนอขอใช้งบ กทปส. 1,422 ล้านบาท ในช่วง 3 ปี กับโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุข วงเงิน 1,514 ล้านบาท ซึ่ง ครม. เพิ่งมีมติอนุมัติไปเมื่อไม่นานมานี้ และเห็นว่าทั้ง 2 โครงการมีลักษณะที่ใกล้เคียงกันมาก และมีลักษณะที่ซ้ำซ้อนกับโครงการที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดินไปแล้ว เช่น โครงการในลักษณะปฏิบัติการแพทย์ทางไกล หรือโทรเวช
//// เครือข่ายแรงงาน ยัน NT เสียประโยชน์ ///
จากที่โครงการต่างๆ ของกองทุน กทปส.ที่เคยบรรจุและเสนอไว้ในประกาศ กสทช. เรื่อง แผนการจัดการให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคมฉบับที่ 3 ปี 2565 นั้น ได้มีการแจ้งและดำเนินการให้ผู้รับใบอนุญาตมาดำเนินการและเสนอโครงการก่อนหรือไม่ เพราะเป็นหน้าที่ของผู้รับใบอนุญาตโดยตรง และหากผู้รับใบอนุญาตไม่สามารถดำเนินการได้แล้วนั้น ถึงจะจัดสรรงบไปยังหน่วยงานอื่น ซึ่ง NT ในฐานะหนึ่งในผู้รับใบอนุญาตก็ควรที่จะได้เข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมก่อนอนุมัติโครงการดังกล่าวหรือโครงการอื่นๆด้วยหรือไม่
ทางกลุ่มเครือข่ายแรงงาน NT จึงขอให้ คณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. ทบทวนขั้นตอนการพิจารณาและการอนุมัติและการกำหนดแผนดำเนินการของกองทุน กทปส.อย่างโปร่งใสและเท่าเทียม รวมถึงให้สอดคล้องกับขั้นตอนและวัตถุประสงค์ตามกฎหมาย โดยเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ได้มีโอกาสร่วมเสนอโครงการหรือนำเงินกองทุน กทปส.ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด