วันที่ 27 มี.ค.65 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า...

น่ากลัว

ภาพการต่อสู้ทางการเมืองในสนามเลือกตั้งครั้งนี้. แต่ละฝ่ายงัดกลยุทธทุกอย่างบรรดามีออกมาประเคนสร้างคะแนนนิยมและทำลายคู่ต่อสู้กันอย่างเต็มที่. นอกจากระบบหัวคะแนน คะแนนจัดตั้งที่พรรคใหญ่มีอยู่ในมือแล้ว. พรรคใหญ่ๆยังอาศัยสื่อขี้ข้า. สื่อมือปืนรับจ้าง

สำนักโพลที่จะเขียนเชียร์ว่าคนนี้คือนายกในฝัน พรรคที่จะชนะแลนด์สไลด์.

ที่ว่านี้. พรรคของลุงตู่นับว่าอ่อนด้อยที่สุด. เนื่องจากเป็นพรรคใหม่สดซิง บุคคลากรของพรรคแม้จะเคยเป็นอดีต สส.มาบ้าง แต่ประสบการณ์ในการนำพรรคเข้าสู่สนามเลือกตั้งเหมือนมือใหม่หัดขับ. ความเขี้ยวความจัดเจนมีน้อยกว่าพรรคอื่นๆอยู่หลายขุม

สภาพคือการชูลุงตู่. การขายภาพลุงตู่. ทำให้ลุงตู่อยู่ในสภาพถูกรุมกินโต๊ะ นั่งดูคนอื่นแอบจับมือทางการเมืองเตรียมฟอร์มรัฐบาลล่วงหน้าก่อนจะมีการเลือกตั้ง. ไม่ต้องสนใจเสียงประชาชนจะว่ายังไง

ลุงตู่มีดีอะไร. ชัดเจนคือไม่ทุจริตและไม่ยอมเกี๊ยะเซียะให้รัฐมนตรีร่วมรัฐบาลทุจริตหรือกระทำขัดมติครม. แต่ด้วยความเป็นรัฐบาลผสมต้องประคับประคองให้รัฐบาลอยู่รอด ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจต้องยอมๆไปบ้าง

4 ปีของรัฐบาลลุงตู่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ. เป็น 4 ปีที่ต้องต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิดเกือบ 3 ปี ทุกอย่างหยุดหมด แต่ทั่วโลกยอมรับลุงตู่ที่บริหารจัดการการแพร่ระบาดได้ดีมาก และด้วยมาตรการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจและประชาชนให้อยู่ได้ แถมยังเร่งงานสร้างระบบอินฟราสตัคเจอร์ต่างๆ เพราะไม่มีการคอรัปชั่นทำให้เงินงบประมาณถูกนำมาใช้อย่างถูกต้อง

การต่อสู้ของบางพรรค อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้สู้ หากครั้งนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาล. โอกาสกลับบ้านมาเลี้ยงหลานอาจหมดไป ทุกอย่างจะจางหายไป

อะไรก็ไม่น่ากลัวเท่ากับพ่อสั่งลูกทำ. ประชาธิปไตยจอมปลอม.

อย่าให้วงจรแห่งความชั่วร้าย วังวนเก่าๆกลับมา. อย่าให้พรรคการเมือง. นักการเมืองโกงกินกลับมามีอำนาจ เข้ามาแทะ โกงกิน ขายบ้านขายเมือง สร้างความร่ำรวยให้ตัวเองและพวก

อยากให้ลุงตู่อยู่ทำต่อ ต้องเลือกพรรคของลุงตู่