สืบ ตม.1 บุกค้นบ้านหนุ่มใหญ่เจ้าของบาร์ชักปืนลูกซองขู่นักท่องเที่ยวฝรั่ง พบมีด กระสุนปืนเกือบ 200 นัด ตรวจยึดส่ง สน.ทองหล่อ ดำเนินคดี
 
​สืบเนื่องมาจาก พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 ได้รับการร้องเรียนจากชาวต่างชาติ ว่าถูกชายชาวไทยเจ้าของบาร์ภายในซอยสุขุมวิท 22 ชักปืนลูกซองออกมาขู่กลางร้านต่อหน้านักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการจำนวนมาก สร้างความหวาดกลัวและแตกตื่นเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1 คุมงานสืบสวน และ พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผบก.ตม.1 รักษาราชการแทน ผกก สืบสวน บก.ตม.1 มอบหมาย ให้ พ.ต.ท.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 สืบสวนหาข่าวและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่        


​จากการสืบสวนของ กก.สืบสวน บก.ตม.1 พบว่าเจ้าของบาร์ดังกล่าวชื่อนายรัก (ขอสงวนนามสกุล) เปิดบาร์ อยู่กลางซอยสุขุมวิท ๒๒ มีพฤติการณ์ชื่นชอบอาวุธปืน มักจะโพสต์ภาพคู่กับอาวุธปืนลงในสื่อโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ค อยู่บ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่พบว่ามีทั้งปืนลูกซองยาว ปืนพกสั้น 9 มม. , 11 มม. และ ปืนลูกโม่ .38 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีหนังสือขอตรวจสอบข้อมูลทะเบียนอาวุธปืนส่วนบุคคล ไปยัง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รับคำตอบว่า นายรักฯ ไม่เคยได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (ป.4) แต่อย่างใด มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายรักฯ ได้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 เจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บก.ตม.1 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งศาลได้อนุญาตให้เข้าตรวจค้นร้าน  ในวันที่ 25 มีนาคม 2566 โดยในขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจพร้อมแสดงหมายค้นเพื่อเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พบว่านายรักฯ ไม่อยู่ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอาจรู้ตัวและหลบไปก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าถึงตัวบ้านเนื่องจากมีรถจักรยานยนต์ที่มีชื่อนายรักเป็นผู้ครอบครองจอดทิ้งไว้หน้าร้าน มีเพียง นางขิม (ขอสงวนนามสกุล) แสดงตนเป็นผู้พักอาศัยบริเวณชั้น ๒ ของร้านซึ่งเป็นที่พัก  เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้นางขิมดูจนเป็นที่พอใจและให้เป็นผู้นำการตรวจค้น เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นไปถึงห้องนอนชั้น 3 พบว่าภายในตู้เสื้อผ้ามีตู้นิรภัยซึ่งไม่ได้ล็อคไว้ จึงได้เปิดออกตรวจสอบต่อหน้านางขิมฯ ผู้นำการตรวจค้น  พบ กระสุนปืนชนิดต่างๆ รายละเอียดดังนี้1. กระสุนปืน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ NRC AMMUNITION  จำนวน  41 นัด

2. กระสุนปืนลูกชอง เบอร์ 12 ยี่ห้อ SELLIER & BELLOT   จำนวน 21 นัด3. กระสุนปืนลูกชอง เบอร์ 12 ยี่ห้อ STERLING ชนิดลูกโดด จำนวน 7 นัด4.  กระสุนปืนขนาด .22 ยี่ห้อ SELLIER & BELLOT จำนวน 48 นัด
5. กระสุนปืนขนาด .22 ยี่ห้อ CCI  จำนวน 33 นัด6.  หนังสือสัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ เลขที่ 261/23 ซ.สุขุมวิท 22 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ระบุ นายรักฯ เป็นผู้เช่า
​จากการสอบถามนางขิมฯ ให้การว่าห้องนอนที่พบกระสุนปืนบริเวณชั้น 3 เป็นห้องนอนของนายรักฯ  
         

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นยังพบปืนไฟแช็คที่มีลักษณะภายนอกเหมือนอาวุธปืนจริง และไม้เท้าแบบมีมีดซ่อนภายใน ที่บริเวณชั้น  1 อีกด้วย​ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำบันทึกการตรวจค้น/ตรวจยึด ของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ  เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  ซึ่งการมีกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พุทธศักราช ๒๔๙๐ มาตรา ๗ ห้ามมิให้ผู้ใดทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่  มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท.