ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เร็วๆนี้การประปานครหลวง (กปน.) เตรียมลงนามสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างโครงการการจ้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำ โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด 8 แสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)ต่อวัน พร้อมกับงาน สัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ราคากลาง 6,526 ล้านบาท กับ ITA Consortium ทั้งๆ ที่ในโครงการนี้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด แต่ กปน. กลับพิจารณาว่า บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ไม่ผ่านการพิจารณา  เนื่องจากมองว่าคุณสมบัติไม่ครบถ้วน  วงษ์สยามก่อสร้าง จึงได้ยื่นอุทธรณ์ผลการจัดซื้อจัดจ้างฯ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณา

โดยทางบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้ยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากเป็นผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด แต่ทาง กปน.กลับอ้างว่า คุณสมบัติของทางบริษัทวงษ์สยามฯ ไม่ครบถ้วน และเตรียมลงนามสัญญากับอีกบริษัท ทั้งที่การลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างจะกระทำได้ต่อเมื่อล่วงพ้นระยะเวลาอุทธรณ์และไม่มีผู้ใดอุทธรณ์ตามมาตรา 117 และ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง ยืนยันมีคุณสมบัติครบถ้วน ถูกต้องตามเงื่อนไขในประกาศ แต่ กปน. ปฏิบัติสวนทางกับแนวคำวินิจฉัย คือ กลับมาพิจารณาเรื่องคุณสมบัติของผู้เสนอราคาใหม่นั้น ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่แตกต่างจากคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ กรมบัญชีกลาง จะเป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากประเด็นเรื่องคุณสมบัติของบริษัท คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ กรมบัญชีกลางได้มีคำวินิจฉัย แล้ว จึงถือว่าการวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ให้เป็นที่สุดตามมาตรา 119 วรรคสาม

“เรื่องดังกล่าวมีความไม่ชอบมาพากล ถ้าหากเร่งรีบลงนามสัญญา ทั้งๆ ที่ขั้นตอนต่างๆ ยังไม่เรียบร้อย อาจเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัตการจัดซื้อจัดจ้างและกการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และหาก กปน.ยังมีการลงนามในสัญญาจริง บริษัทวงษ์สยามจะพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนทางกฏหมายต่อไป”