นิติวิทยาศาสตร์ ลงตรวจสอบบ้าน 'สารวัตรกานต์' อีกครั้ง หลังญาติข้องใจผลการตรวจของตำรวจพิสูจน์หลักฐาน

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฎิบัติการพิเศษอรินทราช และตำรวจ สน.สายไหม ปิดล้อมจับกุม พันตำรวจโท กิตติกานต์ แสงบุญ หรือ สารวัตรกานต์ ตำรวจสันติบาล ที่ใช้อาวุธประจำกายยิงกราดภายในชุมชนมั่นคง 2 เขตสายไหมหลายสิบนัด ก่อนตำรวจตัดสินใจใช้ยุทธวิธีบุกเข้าจับกุมจนเป็นเหตุให้ สารวัตรกานต์ ได้รับบาดเจ็บก่อนเสียชีวิตที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทางญาติยังคงติดใจการทำงานของชุดที่เข้าปฎิบัติงานว่า สาเหตุการเสียชีวิตของ สารวัตรกานต์ นั้นเกิดจากที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ทางญาติจึงขอให้ตำรวจส่งรายละเอียดสำนวนการปฏิบัติการ และขอให้ทาง พฐ.เข้ามาตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงได้นัดวันเข้าตรวจหลักฐานที่เกิดเหตุ วันที่ 23 มี.ค. 66 แต่กลับมีตำรวจเข้ามาในที่เกิดเหตุ ในวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมาก่อนวันนัด 2 วัน ทำให้ญาติของ สารวัตรกานต์ ยิ่งสงสัยว่า ตำรวจที่เข้ามาที่เกิดเหตุก่อนวันนัดนั้น เข้ามาเพื่อทำลายหลักฐานอะไรหรือไม่

ล่าสุด นายอนุชิต ธาตุเสียว ทนายความ ของญาติ สารวัตรกานต์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สายไหม , พฐ. , สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และพนักงานสำนักอัยการ ได้เข้ามาตรวจสอบรายละเอียดในที่เกิดเหตุตรงจุดที่ญาติสงสัย โดยที่ทนายได้วิดีโอคอลไปยังญาติของ สารวัตรกานต์ เพื่อดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ไปพร้อมกันตลอดจนตรวจเสร็จ โดยใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชม. 

พันตำรวจโท สราวุธ บุตรดี รองผู้กำกับการฝ่ายสอบสวน สน.สายไหม เผยว่า วันนี้ได้มาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมตามที่ครอบครัวสารวัตรกานต์ได้ยื่นร้องขอให้มีการเข้าตรวจในจุดที่สงสัย 

ส่วนในกรณีที่ญาติสงสัยว่า ทำไมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามายังที่เกิดเหตุก่อนวันนัดนั้น ซึ่งการที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบเป็นการเข้าไปดูความเรียบร้อยหรือเข้าไปเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ตามอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีจุดที่ยังสงสัยหรือจุดที่ต้องมีการเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งกรณีดังกล่าวได้มีการพูดคุยกับทางญาติสารวัตรกานต์ผ่านทางวิดีคอลทนายเรียบร้อยแล้ว

ส่วนผลการชันสูตรตามมาตรา 150 จะต้องมีกรอบในการทำงาน ซึ่งมีระยะเวลา 30 วัน หากภายในระยะเวลาที่กำหนดยังทำไม่เสร็จ เจ้าหน้าที่ก็สามารถขยายเวลาเพิ่มได้ อีกทั้งยังต้องทำสรุปสำนวนอาญา และสำนวนวิสามัญตามมาตรา 155/1 ความตายเกิดขึ้นโดยการกระทำของเจ้าพนักงาน 

ด้าน นายอนุชิต ทนายความ เผยว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ พฐ.เข้ามาเก็บหลักฐานตามที่ญาติได้ร้องขอไป เนื่องจากมีจุดที่สงสัยเป็นจุดที่ไม่ทราบว่า วิถีกระสุนหลายจุดที่ปรากฎตามกำแพงห้องนั้นเป็นการยิงซ้ำของตำรวจหรือไม่ แต่ตอนนี้ญาติได้ดูการทำงานของ พฐ. และเห็นว่าเก็บหลักฐานไปแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะต้องรอทางตาม พฐ.ส่งผลการพิสูจน์หลักฐานและผลชันสูตรเพื่อแจ้งรายละเอียดกับญาติ