“Accelerating Change” หรือ “เร่งการเปลี่ยนแปลง” คือประเด็นสำคัญที่องค์การสหประชาชาติกำหนดเนื่องในวันน้ำโลก ประจำปี 2566 โดยรณรงค์ให้ “Be the change you want to see in the world” หรือ “ร่วมกันเปลี่ยนแปลง สิ่งที่คุณ อยากเห็น ในโลกใบนี้” เพื่อให้ประเทศสมาชิกและพลเมืองร่วมกันเร่งการเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้เป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านน้ำและสุขาภิบาล (SDG6 : Clean Water & Sanitation)
วันที่ 22 มี.ค.66 โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวสารถึงพี่น้องประชาชนไทยเนื่องในวันน้ำโลก มีใจความสำคัญว่า “น้ำ” เป็นทรัพยากรสำคัญที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ประเทศไทยวางแผนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบพลวัต ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้แก่ การบริการน้ำอุปโภคบริโภคที่ได้มาตรฐานอย่างเท่าเทียม การสร้างความมั่นคงและเพิ่มผลิตภาพของน้ำ การลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจากภัยพิบัติด้านน้ำ การฟื้นฟูป่าต้นน้ำและคุณภาพน้ำ และการเสริมความเข้มแข็งในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของชุมชน ด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม บนพื้นฐานของการรักษาสมดุลนิเวศ วิถีทางสังคม เศรษฐกิจของพื้นที่ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และบริหารแบบลุ่มนํ้าอย่างเป็นระบบ เดินหน้าไปพร้อมกับประเทศสมาชิกในการประกาศคำมั่นโดยสมัครใจ เพื่อยืนยันความร่วมมือ เร่งการเปลี่ยนแปลงด้านน้ำตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีส่วนร่วม และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมมือร่วมใจกันอนุรักษ์และใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า รวมทั้งมีส่วนร่วมเป็นภาคีเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้แถลงข่าวการจัดกิจกรรมเนื่องในวันน้ำโลกว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นหน่วยงานกลางจัดกิจกรรมเนื่องในวันน้ำโลก ซึ่งในปี2566 นี้ จะจัดกิจกรรมตั้งแต่วันน้ำโลก 22 มีนาคม ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2566 โดยมุ่ง (1) สื่อสารการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนร่วมกัน “Accelerating Change” หรือ “เร่งการเปลี่ยนแปลง” (2) แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสนับสนุนให้เกิด “เยาวชนพลังร่วมและแนวร่วมบริหารจัดการน้ำ” พัฒนาโมเดลและขับเคลื่อนการพัฒนาน้ำดื่มน้ำใช้ที่ได้มาตรฐาน และความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัด ในบ้าน สถานศึกษา และชุมชน และ (3) ส่งเสริมการมีส่วนร่วม ด้วยการจัดงาน “ความร่วมมือ และการมีส่วนร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ” เพื่อนำเสนอต้นแบบความร่วมมือและการมีส่วนร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของทุกภาคส่วน เพื่อการพัฒนา ต่อยอด และขยายผล ซึ่งจะจัดในเดือนสิงหาคม 2566
โดย สทนช. มุ่งสร้างความตระหนักให้กับทุกคนและทุกภาคส่วนว่าน้ำเป็นสิ่งจำเป็นของทุกชีวิต และ “น้ำเป็นสมบัติของทุกคน” กิจกรรมเนื่องในวันน้ำโลกปีนี้จะขยายภาพความร่วมมือของทุกภาคส่วน ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา สื่อมวลชน หน่วยงานหรือองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงเยาวชนและประชาชน ที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นพลังร่วม และเป็นแนวร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
สำหรับกิจกรรม “เยาวชนพลังร่วมและแนวร่วมบริหารจัดการน้ำ” เพื่อพัฒนาโมเดลและขับเคลื่อนการพัฒนาน้ำดื่มน้ำใช้ที่ได้มาตรฐาน และความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัด นั้น สทนช. ร่วมกับสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และเครือข่ายเยาวชนผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านน้ำของ สทนช. จัดการประชุมออนไลน์ Kick off กิจกรรมร่วมกับเยาวชนทั่วประเทศ ในวันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 19.00 น. เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และแนะนำแนวทางการพัฒนาโมเดลและการขับเคลื่อนของเยาวชน ผนวกกับกิจกรรม Roadshow ซึ่งจะดำเนินการในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2566 ในสถานศึกษา 4 ภาค ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้ และกิจกรรมสร้างความร่วมมือ โดยมีนักวิชาการของ สทนช. และภาคีเครือข่ายร่วมสนับสนุน เพื่อพัฒนาต้นแบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของสถานศึกษา พัฒนาโมเดลและขับเคลื่อนการพัฒนาน้ำดื่มน้ำใช้ที่ได้มาตรฐาน และความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัด ที่สามารถขยายผลต่อเนื่องไปยังครอบครัว และชุมชน ซึ่งจะมีการสนับสนุนและติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง และเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนสนับสนุนการพัฒนาโมเดลและการขับเคลื่อนของเยาวชน
การจัดงาน “ความร่วมมือ และการมีส่วนร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ” ในเดือนสิงหาคม 2566 จะเป็นการเน้นย้ำ เชื่อมโยง และขยายภาพความร่วมมือและการมีส่วนร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของทุกภาคส่วนที่ได้ดำเนินการ “เร่งการเปลี่ยนแปลง” และ “ร่วมกันเปลี่ยนแปลง สิ่งที่คุณ อยากเห็น ในโลกใบนี้” ด้วยการนำเสนอต้นแบบความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยต้นแบบที่สามารถนำไปต่อยอดขยายผล และต้นแบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจากทุกภาคส่วน จะได้รับมอบโล่รางวัล และเกียรติบัตร เพื่อเป็นกำลังใจในการร่วมขับเคลื่อน และเกิดการขยายผลการร่วมบริหารจัดการทรัพยากรน้ำต่อไป
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.onwr.go.th / www.facebook.com/onwrnews