เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการเพิกถอนหมายจับ สว.ทรงเอ ว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจของอัยการสูงสุด (อสส.) เนื่องจากเป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่ง อสส.ได้มอบหมายให้กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 เป็นพนักงานสอบสวน โดยเรื่องนี้พนักงานสอบสวนมีการหารือร่วมกัน ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก ตนเองได้มีการติดตามและเร่งรัดในส่วนของตำรวจมาโดยตลอด และเน้นย้ำขอให้ทำด้วยความรอบคอบและรวดเร็ว อีกทั้งหากมีโอกาสก็ให้ชี้แจงกับสื่อมวลชน เพื่อให้ทุกภาคส่วนไม่เคลือบแคลงสงสัยและเกิดความสบายใจ พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมาไม่ได้ถูกกดดันหรือมีใครเข้ามาจงใจทำให้คดีถูกบิดเบี้ยว 


ผบ.ตร. กล่าวยืนยันว่า การโยกย้ายของข้าราชการตำรวจที่เคยทำคดีไม่มีใครมาสั่งหรือแทรกแซง แต่เพราะต้นสังกัดมีเหตุผลและความจำเป็นต้องย้ายและให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน เนื่องจากว่าเป็นการบริหารบุคคลภายใน เพื่อต้องการให้มีประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น แค่นั้นเอง ไม่มีอย่างอื่นจริงๆ 


ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรวมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมไปร้องเรียนตำรวจสอบสวนกลางว่าการโยกย้ายตำรวจที่ทำคดี สว.ทรงเอ ไม่เป็นธรรมนั้น ในส่วนนี้ตนเองไม่ขอให้ความเห็น เพราะไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลเป็นคนทำงานดี แต่ตนอาจจะไม่ทราบทุกเรื่อง แต่ว่าก็ขอให้ความจริงปรากฎหลังจากการสอบสวนแล้วกัน