ธนาคารกรุงไทยสนับสนุนธุรกิจ SME ปรับตัวรับเทรนด์ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย “สินเชื่อกรุงไทยเพื่อความยั่งยืน (ESG)” ครอบคลุมการลงทุน ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อลดการใช้พลังงาน ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สนับสนุนวงเงินสูงสุด 100% ของมูลค่าการลงทุน ผ่อนนาน 10 ปี
นายวีระพงศ์ ศุภเศรษฐ์ศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจขนาดกลาง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล(ESG) พร้อมสนับสนุนภาคธุรกิจ SME ปรับตัวรับโลกธุรกิจยุคใหม่ที่มุ่งใช้พลังงานสะอาด และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านสินเชื่อกรุงไทยเพื่อความยั่งยืน(ESG) โดยสนับสนุนเงินทุนสำหรับดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือปรับเปลี่ยน ปรับปรุงอุปกรณ์ และกระบวนการผลิตเพื่อลดการใช้พลังงานดังนี้
-ด้านการบริหารจัดการพลังงาน ลดการใช้ทรัพยากร เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน หรือเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต รวมถึงนวัตกรรมจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การคิดค้นกระบวนการผลิตใหม่ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
-ด้านการอนุรักษ์พลังงาน การเปลี่ยนเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูงหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานหรือประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต
-ด้านการดำเนินธุรกิจโดยใช้พลังงานทดแทนต่างๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ พลังงานลม การติดตั้ง Solar Rooftop / Biogas รวมถึงโครงการที่เกี่ยวข้องกับการรองรับการขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้าหรือยานยนต์พลังงานสะอาด เช่น รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV)หรือ Green Logistic เป็นต้น
-ด้านดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ก๊าซเรือนกระจก ก๊าซพิษ รวมถึงการลดการปล่อยของเสียสู่สิ่งแวดล้อม เช่น การบำบัดน้ำเสีย หรือการเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อลดส่วนสูญเสียในการผลิต เป็นต้น
โดยสินเชื่อกรุงไทยเพื่อความยั่งยืน (ESG) สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่เป็นนิติบุคคล มียอดขายมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี ครอบคลุมทั้งสินเชื่อใหม่ และสินเชื่อเพิ่มเติม สนับสนุนวงเงินสูงสุด 100% ของมูลค่าการลงทุน ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี โดยการอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครได้ที่ สำนักงานธุรกิจธนาคารกรุงไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111
นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทปลูกผักเพราะรักแม่ (โอ้กะจู๋)กล่าวว่า โอ้กะจู๋ทำธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยหันมาใช้พลังงานสะอาดในการบริหารจัดการในธุรกิจด้วยการติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในร้านอาหาร และฟาร์มปลูกผัก พร้อมนำแนวคิด Zero Waste เข้ามาประยุกต์ใช้ควบคู่กับกระบวนการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อบริหารจัดการของเสีย เศษขยะต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งเศษอาหารเหลือทิ้งจากร้านอาหาร เศษตัดแต่งกิ่งไม้ หรือเศษวัสดุตามชุมชน นำมาผลิตเป็นปุ๋ยหมักใช้ในการปลูกผักที่ฟาร์ม ลดขยะและตอบโจทย์การเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจากการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทย ที่ผ่านมาทำให้บริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจได้ตามความตั้งใจ เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน