กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.  ​ร่วมกันจับกุม

 1. นายปัญญา   อายุ 37 ปี สัญชาติ ไทย      ผู้ต้องหาที่ 1
 2. นายชัย   ไม่มีนามสกุล  อายุ 24 ปี  สัญชาติ เมียนมา      ผู้ต้องหาที่ 2
 3. น.ส.แตงโม   ไม่มีนามสกุล  อายุ 23 ปี  สัญชาติ เมียนมา      ผู้ต้องหาที่ 3
 4. นายมี่   ไม่มีนามสกุล  อายุ 31 ปี  สัญชาติ เมียนมา      ผู้ต้องหาที่ 4
 5. นางโช   ไม่มีนามสกุล  อายุ 30 ปี  สัญชาติ เมียนมา      ผู้ต้องหาที่ 5
 6. นายชู ตู   ไม่มีนามสกุล  อายุ 24 ปี  สัญชาติ เมียนมา      ผู้ต้องหาที่ 6
 7. นายไป่ เมียด เมง  ไม่มีนามสกุล  อายุ 21 ปี  สัญชาติ เมียนมา      ผู้ต้องหาที่ 7
 8. นางเข่ง เข่ง   ไม่มีนามสกุล  อายุ 26 ปี สัญชาติ เมียนมา      ผู้ต้องหาที่ 8
 9. น.ส.เน วุย   ไม่มีนามสกุล  อายุ 20 ปี  สัญชาติ เมียนมา      ผู้ต้องหาที่ 9
 10. น.ส.ดา  ไม่มีนามสกุล  อายุ ๑๘ ปี  สัญชาติ เมียนมา      ผู้ต้องหาที่ 10
 1๑. นางมา เวน ไค  ไม่มีนามสกุล  อายุ 48 ปี  สัญชาติ เมียนมา      ผู้ต้องหาที่ 11
 1๒. นายมน ทูน เตน  ไม่มีนามสกุล  อายุ 44 ปี  สัญชาติ เมียนมา      ผู้ต้องหาที่ 12
 พร้อมด้วย ด.ญ.จาน แต  ไม่มีนามสกุล  อายุ 11 ปี  สัญชาติ เมียนมา      ติดตามผู้ต้องหาที่ 13

โดยกล่าวหาว่า  ผู้ต้องหาที่ 1 กระทำความผิดฐาน “ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม” ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64 และ “ใช้เครื่องหมายที่นายทะเบียนออกให้สำหรับรถคันหนึ่งกับรถอีกคันหนึ่ง” ตาม  พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา 67  ผู้ต้องหาที่ 2-10 กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 54  ผู้ต้องหาที่ 11-12 กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 81  สถานที่จับกุม ทางหลวงหมายเลข 323 กม.80 (ขาเข้า กทม.) ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ต่อเนื่อง ทล.367 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ต่อเนื่อง วัดหัวนา-วัดถ้ำขุนไกร ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน บษ 1093 กาญจนบุรี จำนวน 1 คัน 

พฤติการณ์ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ดำเนินการจับกุม และออกกวดขันปราบปรามบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทย ซึ่งในวันที่ 20 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ขับขี่รถวิทยุตรวจการณ์มาถึงบริเวณทางหลวงหมายเลข 323 กม.80 (ขาเข้า กทม.) ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่พบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล สีดำ หมายเลขทะเบียน บห 5263 สุพรรณบุรี ขับขี่ส่ายไปมา ลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย ด้านท้ายกระบะมีผ้าคลุม ต้องสงสัยว่ามีการบรรทุกบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาใน ราชอาณาจักรไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกให้รถคันดังกล่าวหยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ขับติดตาม โดยได้มีการประสานให้ทาง สภ.เมืองกาญจนบุรี ช่วยสกัดจับ ซึ่งเมื่อมาถึงบริเวณ ถนนวัดหัวนา - วัดถ้ำขุนไกร ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสามารถสกัดจับ และหยุดรถคันดังกล่าวไว้ได้ โดยพบนายปัญญา ฯ ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ทำการตรวจค้นรถคันดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบบุคคลต่างด้าว จำนวน 12 คน (แยกเป็นชาย จำนวน 5 คน และหญิงจำนวน 7 คน) ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา นั่งซุกซ่อนอยู่ด้านในห้องผู้โดยสาร ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานประจำตัว ปรากฏว่าผู้ต้องหาที่ 2 – 10 ไม่มีหนังสือเดินทาง บัตรประจำตัว หรือเอกสารใดๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนผู้ต้องหาที่ 11 - 12 มีหนังสือเดินทาง แต่การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวนายปัญญาฯ        ผู้ต้องหาที่ 1 พร้อมด้วยบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา รวมจำนวน 12 คน ส่งพนักงานสอบสวน  สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามนายปัญญาฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การว่าได้รับตัวบุคคลต่างด้าว จำนวน 12 คน มาจากต้นทางบริเวณป่าละเมาะริมทางหลวงหมายเลข 323 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยออกเดินทางจาก อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เวลาประมาณ 04.30 น. ของวันที่ 20 มีนาคม ๒๕66 ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 323 อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี – ถนนเลี่ยงเมืองทางหลวงหมายเลข 367 อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ขาเข้ากรุงเทพฯ โดยมุ่งหน้าจะไปส่งบุคคลต่างด้าวที่บริเวณริมถนนทุ่งมะสังข์ – ลาดหญ้า ต.หนองกุ่ม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 


ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลยานพาหนะพบว่า หมายเลขทะเบียนรถ บห 5263 สุพรรณบุรี เป็นหมายเลขทะเบียนของรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ ISUZU สีเขียว ซึ่งถูกระงับใช้รถตั้งแต่ 20 มีนาคม 2562   เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบเอกสารสำเนาคู่มือการจดทะเบียน และป้ายภาษีประจำปีของรถที่ใช้ก่อเหตุ  พบว่าเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน บษ 1093 กาญจนบุรี ซึ่งนายปัญญาฯ       ผู้ต้องหาที่ 1 ได้ยอมรับว่าได้นำแผ่นป้ายทะเบียนคันอื่นมาติดใช้งานกับรถคันที่ใช้ในการก่อเหตุ เพื่อปกปิดและอำพรางการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ 


นอกจากนี้ นายปัญญาฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ยังให้ข้อมูลอีกว่า ในการเดินทางลักลอบขนบุคคลต่างด้าวใน ครั้งนี้ มีนายอ่องฯ (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) เป็นผู้โทรสอบถามความคืบหน้าการขนย้ายบุคคลต่างด้าว ซึ่งตนได้รับค่าจ้าง 7,000 บาท และตนเคยรับจ้างขนย้ายบุคคลต่างด้าวมาแล้วจำนวน ๓ ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 โดยการขนย้ายบุคคลต่างด้าวทุกครั้ง ตนรับงานมาจากนายอ่อง

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา